โครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2566 โดยกลุ่มงาน ทันตกรรม โรงพยาบาลสุรินทร์
ผู้ที่สูญเสียฟัน โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่ไม่มีฟันเกือบทั้งปาก หากได้รับฟันเทียมแล้วจะช่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะส่วนใหญ่มักจะเป็นเช่นนั้น
แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีผู้สูญเสียฟันจำนวนไม่น้อยที่เมื่อได้รับฟันเทียมแล้ว แต่กลับไม่สามารถใส่และใช้ฟันเทียมที่ได้รับมาได้ ประสบปัญหาฟันเทียมหลวม ไม่ยึดติด บดเคี้ยวอาหารไม่ได้ บางครั้งก็อาจหลุดร่วงจากปากได้ ฟันปลอมที่ได้รับมาจึงถูกถอดและเก็บไว้ในกล่องอย่างดี เหมือนเป็นของที่ระลึกชิ้นหนึ่ง
ทำไมเป็นเช่นนั้น เพราะในกรณีที่ผู้ป่วยมีเหงือกที่แบนราบ จนไม่มีสันเหงือกที่ฟันปลอมจะยึดติดได้ หรือใส่ได้ก็หลวมและไม่แน่นกระชับ ทำให้เกิดความรำคาญกับผู้ใส่ และอาจเกิดบาดแผลในช่องปากได้ แทนที่จะเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดี กลับสร้างปัญหาให้กับผู้สูงอายุได้ ดังนั้นการใส่รากฟันเทียมจึงเป็นสิ่งที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาจุดนี้ได้
โครงการฟันเทียม รากฟันเทียม เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ภายใต้ความร่วมมือโดยกลุ่มงานทันตกรรม โรงพยาบาลสุรินทร์ อาคาร100 ปี ชั้น4 สาธารณสุขไทยโรงพยาบาลสุรินทร์ ทันตนวัตกรรม รพ. สุรินทร์ จึงได้เพิ่มบริการรักษาฟัน ใส่รากฟันเทียมให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการ ทุกกลุ่มอายุที่มีปัญหาการใส่ฟันเทียม ฟันเทียมหลวม ไม่กระชับ หรือไม่สามารถใส่ฟันปลอมได้ ที่ทันตแพทย์วินิจฉัยแล้วว่า จำเป็นต้องได้รับการใส่รากฟันเทียม
อย่างไรก็ตามในช่วงระยะเวลาการดำเนินโครงการฯ ที่ผ่านมานั้น ในส่วนของจำนวนประชาชนที่รับบริการใส่ฟันเทียมได้เป็นไปตามเป้าหมายโครงการฯ แต่ในส่วนของบริการใส่รากฟันเทียมนั้นพบว่า ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีความไม่เข้าใจและยังรู้สึกกลัวที่จะใส่รากฟันเทียม คิดว่าการใส่รากฟันเทียมเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ต้องผ่าตัดและมีความเจ็บปวดมาก รวมถึงต้องรับบริการหลายครั้ง
ความเป็นจริงแล้วต้องย้ำว่า การใส่รากฟันเทียมนี้ไม่แตกต่างอะไรจากการถอนฟัน หรือผ่าฟันคุดอย่างง่าย โดยผู้ป่วยจะได้รับยาชาก่อน หลังจากนั้นทันตแพทย์จะทำการใส่รากฟันเทียม 2 รากที่ขากรรไกร ที่ใช้เวลาไม่นานมากเพียง 1-2 ชั่วโมง ก็เป็นอันเรียบร้อยดี และเมื่อยาชาหมดฤทธิ์ ผู้ป่วยก็อาจมีอาการปวดบ้าง แต่จะเกิดขึ้นเพียงแค่ 1-2 วันก็หาย
หลังจากนั้น เป็นการช่วงการรอให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูก ซึ่งต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน ต่อมาจะเป็นการปรับแต่งฟันเทียมเพื่อยึดกับรากฟัน จากนั้นผู้ป่วยก็สามารถใช้ฟันเทียมชุดใหม่นี้ได้ ในระหว่างนี้ก็จะมีการนัดผู้ป่วยมาตรวจรากฟันเทียมที่ใส่ ซึ่งเป็นรากฟันเทียมที่สามารถใช้ได้ไปตลอด แต่ในกรณีที่ใส่ฟันเทียมที่ยึดติดกับรากฟันเทียมไประยะหนึ่ง แล้วฟันเทียมที่ใส่เกิดหลวมอีกนั้น จะเป็นการแก้ไขโดยปรับฟันเทียมบริเวณที่ยึดกับรากฟันเท่านั้น
จากข้อมูลข้างต้นนี้ จะเห็นได้ว่าการใส่รากฟันเทียมไม่ได้เป็นสิ่งที่ยุ่งยากหรือน่ากลัวแต่อย่างใด แต่ตรงกันข้าม เมื่อผู้ป่วยมีรากฟันเทียมที่จะยึดติดฟันเทียมแล้ว จะทำให้ท่านสามารถใช้ฟันเทียมในการบดเคี้ยวได้ดี รับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ได้หลากหลาย อันนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ทั้งยังเป็นการเสริมบุคลิกที่ดีให้กับผู้ป่วยอีกด้วย นับได้ว่าสิ่งต่างๆ ที่ตามมาจากผลของการใส่รากฟันเทียมนี้ จะส่งผลที่ดีต่อผู้ป่วยอย่างมาก มีผู้รับเข้าบริการรากฟัน จำนวน 44 ราย และฝังรากฟันเทียมจำนวน 6 ราย รวมทั้งสิ้น 72 ราก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น