srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันจันทร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

โครงการประชาสัมพันธ์และการตลาดด้านการท่องเที่ยว

โครงการประชาสัมพันธ์และการตลาดด้านการท่องเที่ยว

    เที่ยวได้ทุกวัน  สีสันตะวันออก

สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดจันทบุรี  นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนในภาคอีสานตอนล่าง 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุรินทร์ และ จังหวัดบุรีรัมย์ กว่า 100 คน ร่วมสำรวจแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราด ภายใต้โครงการประชาสัมพันธ์และการตลาดด้านการท่องเที่ยวในกิจกรรม "เที่ยวได้ทุกวันสีสันตะวันออก" ระหว่างวันที่ 21-23 กรกฎาคม 2560 
  สำหรับกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์ เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว รวมถึงสื่อมวลชนในพื้นที่ภาคอีสานตอนล่างมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ของภาคตะวันออกด้วยตนเอง นอกเหนือจากการรับรู้จากสื่อต่างๆรวมทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคตะวันออกให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ยังเป็นการระดมความคิดเห็นของนักท่องเที่ยวในมุมมองต่างๆที่มีต่อแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ พร้อมให้คำแนะนำติชม เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น พร้อมเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่จากการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวอีกด้วย
   ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ที่ผู้เข้าร่วมโครงการได้สำรวจและเยี่ยมชมในครั้งนี้ ประกอบด้วย เข้าสักการะศาลหลักเมือง  ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช  


ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหารราช
เยี่ยมชมหอจดหมายเหตุของจังหวัดจันทบุรี

และวัดโรมันคาทอลิก อาสนวิหารพระนางมารีอาปฏิสนธินิรมล
อ่าวคุ้มกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  หลาดเจ้าหลาว จุดชมวิวเนินนางพญา  ตึกแดงและคุกขี้ไก่ โอเอซีสซิเวิร์ล ศูนย์ส่งเสริมอัญมณี และเครื่องประดับจันทบุรี   ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว หาดทรายสีดำซึ่งเป็นสิ่งมหัสจรรย์ตามธรรมชาติ                                                                  


   รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายพงษ์พัฒน์  วงศ์ตระกูล กล่าวว่า จังหวัดจันทบุรีมีของดีทั้งหมดที่อีสานมี มีครบทั้งหมดทั้งประวัติศาสตร์ เป็นเมืองของพระเจ้าตากสินมหาราช มีวัฒนธรรมประเพณี แหล่งท้องเที่ยวที่สวยงาม รวมทั้งเป็นเมืองชายแดน แต่ที่มีเพิ่มเติมจากอีสานก็คือทะเลที่สวยงาม นักท่องเที่ยวที่ได้มาท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรีจะได้พบกับทุกบรรยากาศ ที่นี้อากกาศดีไม่มีมลพิษเพราะไม่มีโรงงาน มาเที่ยวที่จังหวัดจันทบุรีที่เดียวเหมือนได้มาทั่วประเทศไทย จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่จังหวัดจันทบุรีให้มากยิ่งขึ้น  จังหวัดจันทบุรีมีรายได้ค่าหัว 400,00 บาท/ ต่อคน/ปี  ในปีนี้จังหวัดจันทบุรีมีการส่งออกผลไม้ไปเมืองจีนผ่านทางเวียดนาม 60,000ล้านบาท จังหวัดจันทบุรีจึงอยากให้นักท่องเที่ยมมาชิมมาช๊อบ ผลไม้ของเมืองจันทบุรี                     
ชุมชนบ้านน้ำเชี่ยว ตำบลน้ำเชี่ยว อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด 2 ศาสนา 3 วัฒนธรรม ที่มีพุทธ ชาวมุสลิม และชาวไทยเชื้อสายจีน อาศัยอยู่ร่วมกันมานับร้อยปี   


    ด้านนางดวงเดือน  สดแสงจันทร์  ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า สำหรับการจัดงานในครั้งนี้เราได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล เพื่อนำมาขับเคลื่อนโครงการประชาสัมพันธ์และการตลาดด้านการท่องเที่ยวในกิจกรรม "เที่ยวได้ทุกวันสีสันตะวันออก" เพื่อเชิญชวนนักท่องเที่ยวผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนจากทั่วประเทศมาสัมผัสมนต์เสน่ห์ ของภาคตะวันออก ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ด้วยตนเอง นอกเหนือจากการรับรู้จากสื่อต่างๆ รวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ผ่านการจับจ่ายใช้สอยซื้อของฝากสินค้า และได้มีการจัดทำแบบสอบถามความพึงพอใจให้กับคณะที่เดินทางมาตามโครงการให้คำแนะนำและติชมในการปรับปรุงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ เพื่อที่ทางสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดจันทบุรี จะได้นำข้อมูลกลับไปประมวลผลและปรับปรุงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ต่อไป










 
     


วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

โครงการประชาสัมพันธ์การตลาดด้านการท่องเที่ยว

โครงการประชาสัมพันธ์และการตลาดด้านการท่องเที่ยว

   เที่ยวได้ทุกวันสีสันตะวันออก

วันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐  เวลา ๒๒.๓๐  ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว โรงแรม  ร้านอาหาร  สื่อมวลชน จากจังหวัดสุรินทร์  เดินทางไปยังจังหวัดจันทบุรี  เพื่อศึกษาดูงานตามโครงการประชาสัมพันธ์และการตลาดด้านการท่องเที่ยว
     วันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๖๐ เวลา ๐๗.๐๐ เดินทางถึง จังหวัดจันทบุรี ทำภาระกิจส่วนตัวเสร็จ เข้าสักการะศาลหลักเมืองจังหวัดจันทบุรีและศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวจันทบุรีและประชาชนทั่วไป




ประวัติศาสตรก่อสร้างศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จังหวัดจันทบุรี  ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือนหก ปีมะแม ร.ศ.1353 เป็นวันดีวันอุดมฤกษ์ โดยมี พลเรือเอก  ปรีดา   กาญจนรัตน์  ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และเรือตรี สุกรี  รักษ์ศรีทอง  ผู้ว่าราชการป้องกันชายแดนจันทบุรีเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ร่วมกัน มีข้าราชการพลเรือน ทหารตำรวจ พ่อค้าประชาชน ทุกสาขาอาชีพในจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดใก้ลเคียงมาร่วมในพิธีมากมาย       การออกแบบและเขียนแบบโดยช่างของกรมศิลปกร เป็นรูปทรงเก้าเหลียม หลังคาเป็นรูปพระมาลา หรือรูปหมวกยอดแหลม ความสูงระดับถึงยอดหมวก ๑๖.๙๐ เมตร ความก้าวงโดยเฉลี่ย ๙ เมตร ภายในศาลมีแท่นสำหรับเป็นที่ประดิษฐานพระรูปของพระองค์ท่าน ยอดบนสุดเป็นฉัตรทองคำ ๙ ชั้น มีบันไดทางขึ้นสามด้าน เป็นสองระดับ ระดับล่างมีบันไดสามขั้น ระดับบนมีบันไดหกขั้น รวมเป็นเก้าขั้น ราวบันไดเป็นรูปพลสิงห์ ลำตัวอ่อนช้อยไปตามขั้นบันไดหล่อด้วยโลหะทองเหลืองรมดำ ดูแล้วน่ายำเกรงเป็นอันมาก รอบนอกศาลบุด้วยหินอ่อน พื้นปูด้วยหินแกรนิต  ด้านในศาลเขียนลายไทยแบบพุ่มข้าวบิณฑ์ ประตูไม้มะค่าแผ่นใหญ่ หน้าต่างไม้มะค่าและไม้สักทอง
    และนำเยี่ยมชมหอจดหมาบเหตุแห่งชาติจันทบุรี เป็นสถานที่แสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ ของรัชกาลที่ ๕ และ พระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙    
 ช่วงเวลา ๑๕.๐๐ น. เดินทางต่อไปยัง ตึกแดง   เป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ของจังหวัดจันทบุรี  ตึกแดงเป็นอาคารชั้นเดียวก่ออิฐถือปูน  กว้าง ๗ เมตร ยาว ๓๒ เมตร ทาสีแดงชาด ภายในแบ่งเป็น ๕ ห้อง มีประตูถึงกันหมด มีระเบียงสองด้านตามแนวยาวของตัวตึก  สร้างขึ้นในบริเวณที่ตั้งป้อมปืนเก่าแก่และได้รับการบูรณะในสมัยรัชกาลที่ ๓ เพื่อรับซึ่งญวณ ฝรั่งเศส ได้รื้อตึกจากตัวป้อมมาสร้างตึกแดง เพื่อใช้เป็นที่พักนายทหารและกองรักษาการณ์ปากน้ำแหลมสิงห์ ตึกแดงได้รับการบูรณะเมื่อ ปี พ.ศ.๒๕๒๗ และใช้เป็นอาคารห้องสมุดและศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน ของอำเภอแหลมสิงห์ ต่อมาเลิกใช้และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม  ตึกแดงสร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ.๒๔๓๖
   คุกขี้ไก่ จันทบุรี
ตั้งอยู่ตำบลปากน้ำแหลมสิงห์ อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี  เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สำคัญอีกแห่งหนึ่ง  คุกขี้ไก่สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๖ เพื่อกักขังนักโทษชาวไทยที่ได้ต่อต้านกับชาวฝรั่งเศส เป็นคุกทรงสี่เหลี่ยม สูง ๗ เมตร


วันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

เปลี่ยนขยะเป็นกองบุญ

เปลี่ยนขยะเป็นกองบุญ เทศบาลตำบลศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ จัดทอดผ้าป่าลดโลกร้อน

เมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๐ เทศบาลตำบลศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ จัดทอดผ้าป่าลดภาวะโลกร้อน ภายใต้แนวคิด "เปลี่ยนขยะเป็นกองบุญ" ประชาชน ๘ ชุมชนในเขตเทศบาลตำบลศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์  ร่วมตกแต่งต้นผ้าป่าด้วยขยะรีไซเคิลพร้อมนำเงินบริจากหลังการขายขยะเขากองทุนประกันสุขภาพ
    นายบรรจง  พิชญาสาธิต นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานพิธีทอดผ้าป่าขยะรีไซเคิลลดภาวะโลกร้อนภายใต้แนวคิด "เปลี่ยนขยะเป็นกองบุญ" ณ เทศบาลตำบลศีขรภูมิ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เพื่อปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนมีใจรักษ์ในสิ่งแวดล้อมอันเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติทั้งหลาย  ด้วยการคิดแยกขยะที่สามารถนำมารีไซเคิลใหม่ได้ พร้อมตั้งแถวขบวนเคลื่อนไปตามถนนรอบๆเทศบาลตำบลศีขรภูมิ ทั้งนี้ประชาชนทั้ง ๘ ชุมชนต่างร่วมกันจัดขบวนต้นผ้าป่าขยะอย่างสวยงามแห้รอบเขตเทศบาลตำบลศีขรภูมิ  โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนแงงกวง  โรงเรียนบ้านระแงง  และ โรงเรียนศีขรภูมิพิสัย เข้าร่วมในการแห่ต้นผ้าป่าขยะรีไซเคิลในครั้งนี้ด้วย รวมทั้งมีการถือป้ายไวนิล เขียนข้อความรณรงค์ให้คัดแยกขยะช่วยลดภาวะโลกร้อนและข้อความอื่นๆอีกมากมาย สร้างความสนใจให้กับประชาชนทั่วไปต่างพากันนำขยะรีไซเคิลมาร่วมทำบุญในครั้งนี้ด้วย ซึ่งมีปริมาณขยะที่มาร่วมทำบุญครั้งนี้ รวมทั้งหมด ๔,๘๓.๗๐ กก. และเงินที่ขายขยะรีไซเคิลรวมเงินบริจากอีก ๕๐,๙๔๙ บาท 
   ขั้นตอนพิธีการต่างๆ มีการนิมนต์พระสงฆ์มารับผ้าป่า ก่อนจะมอบคืนให้กับเทศบาลตำบลศีขรภูมิ  เพื่อนำเงินรายได้จากการขายขยะรีไซเคิลทั้งหมดสมทบเข้ากองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น หรือเทศบาลตำบลศีขรภูมิต่อไป













วันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2560

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 จัดกิจกรรม on ground on air online

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 จัด กิจกรรม On ground On air Online

สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 สื่อสารสร้างสุขสู่ชุมชน จัดเวทีสร้างการรับรู้และเข้าใจให้กับประชาชน ด้านแรงงานต่างด้าวอย่างถูกต้อง ที่ตลาดช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
วันที่ 16  กรกฎาคม 2560 
   นายดุสิต  สิงห์คีรี   ผู้อำนวยการสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2  กรมประชาสัมพันธ์ โดยสำนักประชาสัมพันธ์เขต 2 ร่วมกับสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จังหวัดสุรินทร์  จัดโครงการ " สปข 2 สือสาร สร้างสุข สู่ชุมชน" ครั้งที่ 1 ในวันอาทิตย์ที่ 16 กรกฎาคม 2560  ตั้งแต่เวลา 09.00 น.ที่บริเวณตลาดช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ โดยมี นายพรชัย  มุ่งเจริญพร  กรรมการสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา จังหวัดสุรินทร์ กล่าวต้อนรับ นายดุสิต  สิงห์คีรี  ผู้อำนวยการ ประชาสัมพันธ์ เขต 2 เป็นประธานเปิดโครการ  ด้วยการจัดกิจกรรม On air Online เพื่อจัดเวทีการรับรู้และเข้าใจให้กับประชาชน กลุ่มนายจ้างและแรงงานต่างด้าวผู้ประกอบการค้าขาย นักท่องเที่ยว  และผู้ใช้แรงงาน ตามพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งภายในงานจะมีการเสวนาให้ความรู้เรื่องขั้นตอนหรือวิธีดำเนินการจัดการจ้างแรงงานข้ามแดนหรือแรงงานระหว่างประเทศ กฎหมายที่เกี่ยวข้องเรื่องแรงงาน กฎหมายหรือพระราชบัญญัติเกี่ยวกับการค้า  การชะลอการบังคับใช้กฎหมายแรงงานต่างด้าว โดยมีวิทยากรประกอบด้วย นายประภาส  ศรีจันทร์เวียง นายอำเภอกาบเชิง นายธนากร  นราวุฒิพันธ์  จัดหางานจังหวัดสุรินทร์ และการตอบข้อปัญหากฎหมายที่เกี่ยวข้อง จากนายแพทย์ สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ และตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์  โดย สวท สปข 2 ทั้ง 9 จังหวัด รับสัญญาณถ่ายทอดเสียงจาก สวท สุรินทร์และบันทึกเทปรายการทางสถานีโทรทัศน์ NBT อุบลราชธานี และออกอากาศ Online  ผ่านโซเซียลทาง facebook
    สำนักประชาสัมพันธ์เขต 2  ได้บูรณาการการจัดกิจกรรมและดำเนินการร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและ เอกชน โดบเฉพาะอย่างยิ่งกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานในระดับพื้นที่ที่จัดขึ้นเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ความเข้าใจในประเด็นเรื่องของการบังคับใช้กฎหมาย ตามพระราชกำหนดบริหารจัดการคนทำงานต่างด้าว พ.ศ.2560  ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติอาศัยตามความ มาตรา 44 ได้มีคำสั่งให้ชะลอการบังคับใช้การจับกุมไปอีก 180 วัน ไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2560 ทั้งนี้เพื่อให้แรงงานต่างด้าว ได้แก่เมียนมาร์ ลาว และกัมพูชา ทั้งกลุ่มที่ผู้ไม่มีใบอนุญาต และกลุ่มที่ไม่มีวีซ๋าทำงานให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย