มหกรรมแห่เทียนเข้าพรรษา และตักบาตรบนหลังช้าง ประจำปี 2566

 สุรินทร์ !!! ยิ่งใหญ่สมเป็นเมืองช้าง กับมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์” ประจำปี 2566

.

วันที่ 31 กรกฏาคม 2566 เวลา 15.00 น. ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดงานมหกรรมแห่เทียนพรรษาและตักบาตรบนหลังช้าง จังหวัดสุรินทร์” ประจำปี 2566 โดยความร่วมมือของจังหวัดสุรินทร์ เทศบาลเมืองสุรินทร์ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย วัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ สถานศึกษา วัด ชุมชน ส่วนราชการทั้งภาครัฐและเอกชนในจังหวัดสุรินทร์ เพื่อให้พุทธะศาสนิกชน เกิดเจตคติที่ดี ต่อวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ลด ละ เลิก อบายมุข อีกทั้งเป็นการอนุรักษ์ สืบสาน ขนบธรรมเนียม ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี ส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน โดยมีวัดในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ ซึ่งตกแต่งสวยงามอลังการ จากวัดต่างๆ จำนวน 10 วัด ได้แก่ วัดบูรพาราม พระอารามหลวงเฉลิมพระเกียรติ วัดพรหมสุรินทร์ วัดใหม่ศรีมากทอง วัดเทพสุรินทร์ วัดกลางสุรินทร์ วัดจำปาสุรินทร์ วัดหนองบัว วัดศาลาลอยพระอารามหลวง วัดโยธาประสิทธิ์ วัดโคกบัวราย และ วัดจุมพลสุทธาวาส

     ปิดท้ายด้วยขบวนช้างอันเชิญรูปพระพุทธรูปและพระเกจิเมืองสุรินทร์  จำนวน 9 เชือก วงดุริยางค์ขบวนช้างน้อยแฟนซี (ช้าง FC)  จำนวน  14  เชือก และขบวนช้างสวยงาม  จำนวน  28  เชือก  

วันที่ 1 สิงหาคม 2566 เวลา 07.20 น. จ.สุรินทร์ ได้จัดพิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง” ณ บริเวณอนุสาวรีย์พระยาสุรินทรภักดีศรีณรงค์จางวาง

โดยพระเถระชั้นผู้ใหญ่ นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้าง จำนวน 71 รูป 

ที่อนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง ถนนกรุงศรีนอก ในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เปิดงานตักบาตรบนหลังช้าง ประจำปี 2566โดยมีพระเถระชั้นผู้ใหญ่ใน จ.สุรินทร์นั่งบนหลังช้างออกรับ บิณฑบาต  นายพรชัย มุ่งเจริญพร นายก อบจ.สุรินทร์ หัวหน้าส่วนราชการ เทศบาลเมืองสุรินทร์ ร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง

มีประชาชน และนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เข้าร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง เนื่องในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา วันอาสาฬหบูชา ซึ่งจัดขึ้นแห่งเดียวในโลก พระเถระชั้นผู้ใหญ่ พร้อมด้วยพระสงฆ์ จำนวน 71 รูป นั่งหลังช้างจำนวน 77 เชือก เดินออกรับบิณฑบาตจากพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวที่ยืนอยู่บนอัฒจันทร์จำนวน 4 ซุ้ม ได้ทำบุญตักบาตรด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ปัจจัยถวายแด่พระสงฆ์ ขอพรจากพระสงฆ์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และเป็นการสืบทอดวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของชาวไทย รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์

พิธีทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง "แห่งเดียวในโลก" ในวันอาสาฬหบูชา และรับวันเข้าพรรษาในปีนี้ 

พิธีถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

พิธีถวายพระพรชัยมงคลเนื่อง ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมาหาวชิราลงกรณพระชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เนื่องในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2566 ณ. หอประชุมอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ เป็นประธาน ในพิธีพร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ฝ่ายปกครอง ตำรวจทหาร โรงพยาบาล องค์การบริหารส่วนตำบล กำนันผู้ใหญ่บ้าน ชมรมต่างๆ และพสนิกรชาวอำเภอศีขรภูมิ ทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมพิธี ประธานประกอบพิธีวางพานพุ่มทอง พุ่มเงิน ถวายสักการะ และเปิดกรวย กระทง ดอกไม้ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์ จุดเทียนชัย กล่าวถวาย พระพร ชัยมงคล นำกล่าวถวายพระพรชัยมงคล เบื้องหน้า  พระบรม ฉายาลักษณ์ และ กล่าวสัตว์ปฏิญาณตน เพื่อแสดงความจงรักภักดี และสำนึกในพระกรุณาธิคุณ

จิตอาสาพระราชทานร่วมกิจกรรมจิตอาสา "เราทำความดีด้วยหัวใจ"

 จิตอาสาพระราชทานร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบๆสระน้ำ อบต.หนองขวาว ต.หนองขวาว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์

จิตอาสาพระราชทานร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์สระน้ำของ อบต.หนองขวาว อ.ศีขรภูมิ 

นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นำจิตอาสาพระราชทานร่วมกิจกรรมจิตอาสา “เราทำความดีด้วยหัวใจ” พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ณ.บริเวณสระน้ำของ อบต.หนองขวาว ต.หนองขวาว อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ โดยร่วมกันปลูกต้นไม้ ตัดหญ้า ตัดแต่งกิ่งไม้ เก็บกวาดใบไม้ ขยะมูลฝอย ปรับปรุงภูมิทัศน์ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามสะอาดตา เพื่อเป็นที่พักผ่อนของประชาชน ที่เดินทางมาติดต่อราชการของ อบต.หนองขวาว

สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังความสามัคคี ความมีน้ำใจในสังคมไทย รวมถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ในการมุ่งทำประโยชน์แก่ส่วนรวม เพื่อพัฒนาสภาพแวดล้อม สังคม และความเป็นอยู่ในชุมชน ให้มีสภาพที่สะอาดน่าอยู่ นอกจากนี้ยังเป็นการประสานความร่วมมือร่วมกันทำงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาชนทุกหมู่เหล่า โดยเฉพาะประชาชนจิตอาสาในการเข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาขั้นพื้นฐานของชาติ ให้กับคนในชาติ ในชุมชน ให้มีความสุขยั่งยืน สนองพระราชปณิธาน รักษา สืบสาน ต่อยอด ซึ่งการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยสร้างจิตสำนึกให้ประชาชน และทุกฝ่ายตระหนัก และให้ความสำคัญในการรักษาความสะอาด สร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อยให้กับสถานที่บริเวณดังกล่าว

กรมการปกครองลงพื้นที่ตรวจประเมินผลงาน "นายอำเภอแหวนเพชร" ประจำปีงบประมาณ 2566

 กรมการปกครอง ลงพื้นที่ตรวจประเมินผลงาน "นายอำเภอแหวนเพชร" ​ประจำปีงบประมาณ 2566                              

    วันที่ 27 กรกฎาคม 2566 กรมการปกครอง โดย ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ รองอธิบดีกรมการปกครอง และนายรณรงค์ เทพรักษ์ ผู้อำนวยการกองการเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยคณะกรรมการคัดเลือกนายอำเภอแหวนเพชร  ได้ลงพื้นที่ตรวจประเมินผลการปฏิบัติงานของนายอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์

โดยนายกิตติ  สัตย์ซื่ออำเภอศีขรภูมิ นำเสนองานสำคัญ ดังนี้

1.การขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดยมีขั้นตอน 1)สร้างความรับรู้ 2)วิเคราะห์สภาพปัญหา และกำหนดแนวทางแก้ไข 3)จำแนกประเภทครัวเรือน 4)บูรณาการแนวทางให้ความช่วยเหลือ 5)ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ 6)บันทึกข้อมูล 7)ติดตามการดำเนินงาน ซึ่งผลจากการดำเนินการโครงการ นายอำเภอ ศีขรภูมิพบผู้ยากไร้ "เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ให้ประชาชน ทุกน้อยลง สุขมากขึ้น" เป็นอีกโครงการหนึ่งที่นายอำเภอศีขรภูมิได้บูรณาการภาคีเครือข่าย และร่วมกับทางคณะสงฆ์ทุกพื้นที่ เยี่ยมประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาความยากจน ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำ พัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่อำเภอศีขรภูมิให้ดีขึ้น อันเป็นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม โดยมีประชาชนได้รับผลประโยชน์จากโครงการกว่า 100 ราย และพบว่ามีครัวเรือนที่จะต้องให้ความช่วยเหลือ  แบ่งการช่วยเหลือ ออกเป็น มิติสุขภาพ มิติความเป็นอยู่ มิติการศึกษา และมิติด้านรายได้ขจัดความยากจน

นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ ยังนำเสนองานสำคัญ การแก้ไขปัญหาการ"บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" ให้แก่ประชาชน และการขับเคลื่อนโครงการ "รักษ์น้ำ(ใจ) สู่ทฤษฎีใหม่ประยุกต์ เพื่อพลิกชีวิตและความหวัง ตามบันทึกข้อตกลง MOU ความร่วมมือของภาคีเครื่อข่าย 7 เครื่อข่าย ระหว่างวัด โรงเรียนและชุมชน ที่มุ่งเน้นการดำเนินงานเพื่อประโยชน์และความสุขแก่ประชาชนเป็นสำคัญ การดำเนินงานด้านสาธารณสงเคราะห์ ในหลักการ 4 ด้านคือ 1 การสงเคราะห์ 2 การเกื้อกูล 3 การพัฒนา 4 การบูรณาการ โดยมีแนวทางการสร้างภาคีเครือข่ายในพื้นที่อำเภอศีขรภูมิ เข้าร่วมการอบรมโครงการอำเภอนำร่อง "บำบัดทุกข์ บำรุงสุข" แบบบูรณาการ และสร้างนักขับเคลื่อนยุทธศาสตร์นำการเปลี่ยนแปลง ณ.ศูนย์ศึกษาและพัฒนา ชุมชนนครราชสีมา การขับเคลื่อนในภารกิจที่ 5 การจัดตั้งและพัฒนาศูนย์ขยายพันธุ์พืชและสมุนไพร เพื่อให้มีการต่อยอดการสร้างคลังอาหารและครัวชุมชน ให้มีความยั่งยืน สามารถที่จะขยายผลให้คนชุมชนได้มีการ ปลูกพืชผักและสมุนไพร เพื่อสร้างคลังอาหารให้เกิดขึ้นทุกครัวเรือน โดยใช้พื้นที่ของวัดที่มีความพร้อมในด้านการดำเนิน การเป็นศูนย์กลาง ในการเก็บรวบรวมและขยายพันธุ์พืชและสมุนไพร เพื่อรวบรวมเมล็ดพันธุ์ เพาะพันธุ์ และแจกจ่ายต้นกล้าหรือเมล็ดพันธุ์ให้กับครัวเรือนยากจน และคนในชุมชนได้ นำไปปลูก โดยคณะสงฆ์ได้ร่วมกับผู้นำหมู่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้านและชาวบ้านในพื้นที่เป็นแกนหลัก ในการจัดตั้งและพัฒนาศูนย์ดังกล่าว โดยมีภาคีเครือข่าย 7 ภาคีเป็นผู้สนับสนุนดำเนินกิจกรรม ร่วมขับเคลื่อนงานร่วมกันให้เกิดผลดีกับสังคม นอกจากนี้ยังได้นำเยี่ยมชมโครงการ ประชารัฐ สร้างสุข และโครงการ  ทางนี้มีผลผู้คนรักกัน  ณ บ้านแตล  ตำบลแตล อำเภอศีขรภูมิ รวมถึงเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้ชุมชน โคกหนองนา บ้านนาฮัง หมู่ 7 ตำบลหนองขวาว  อำเภอศีขรภูมิ (โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต้นแบบ ปี 2565)

ทั้งนี้ โครงการนายอำเภอแหวนเพชรฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาคัดเลือกนายอำเภอผู้ซึ่งมีความรู้ความสามารถ มีคุณธรรมจริยธรรม และมีผลการปฏิบัติงานดีเด่นเป็นที่ประจักษ์และได้รับการยอมรับจากส่วนราชการและประชาชน เป็นนายอำเภอแหวนเพชร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566