srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2561

สื่อมวลชนสัญจร "ตามรอยพระราชดำริ"

การบริหารจัดการน้ำชุมชนตามแนวพระราชดำริ ของหมู่บ้านลิ่มทอง ตำบลโบสถ์  อำเภอนางรอง  จังหวัดบุรีรัมย์

   การบริหารจัดการน้ำของชุมชนตามแนวพระราชดำริ  5 ระยะ บนพื้นที่กว่า 173,904 ไร่  2,221 ครัวเรือน เครือข่าย 5 ตำบล  การรวมกลุ่มเป็นเครือข่ายการบริหารจัดการน้ำระดับชุมชน ตำบล  อำเภอ  ปรับเปลี่ยนแนวคิดตามทฤษฎีใหม่ ทำให้ชาวบ้านมีรายได้เฉลี่ยครัวเรือนละ 3,000 บาท มีความมั่นคงทางอาหาร ผลผลิตเพียงพอต่อการบริโภค และประชากรมีรายได้เพิ่มขึ้นประมาณ 2.6 เท่า  จากพื้นที่ที่แห้งแล้งซ้ำซาก ปรับเปลี่ยนแนวคิดชีวิตก็เปลี่ยน โดยทำระบบสระน้ำพรวง  เชื่อมคลอกดักน้ำหลาก ทำแก้มลิง กักเก็บน้ำ ในสระน้ำ บ่อน้ำประจำไร่นา  ทำถนนน้ำเดิน ทำตามทฤษฎีใหม่ทำให้ชาวบ้านสร้างรายได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น  การจัดรูปที่ดินแบ่งพื้นที่แหล่งน้ำ  การเกษตร  วางแผลการผลิต  การทำนาปี  ปลูกพืชใช้น้ำน้อย  สร้างเครือข่ายการบริหารการจัดการน้ำในระดับชุมชน ของบ้านลิ่มทอง ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ โดย "น้าน้อย" นักปราชญ์ นักพัฒนา  กับการบริหารการจัดการน้ำระดับชุมชน ตามแนวพระราชดำริ  จนได้รับรางวัลพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  รัชกาลที่ ๙ 
  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์  จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร "ตามรอยพระราชดำริ" วันที่ ๒๗ - ๒๘ มีนาคม ๒๕๖๑  ที่ศูนย์เรียนรู้การเกษตรอทิตยาทร บ้านระไซร์  โครงการเกษตรอทิตยาทร "ซแรย์ อทิตยา" อ.เมืองสุรินทร์ และศึกษาเรียนรู้การบริหารการจัดการน้ำและการทำเกษตรตามแนวทฤษฎีใหม่ของชุมชนบ้านลิ่มทอง ต.หนองโบสถ์  อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ รวมทั้งเยี่ยมชมการบริหารจัดการตลาดประชารัฐ ตามแนวทางเศรษกิจพอเพียง ณ ตลาดสี่ชุมชนเมืองนางรอง อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์
   นายสุรพล  บุตรวงศ์  ประสาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า  สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินโครงการประชาสัมพันธ์เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์  ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร  รัชกาลที่ ๙  สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร  รัชกาลที่ ๑๐ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักรู้  ภาคภูมิใจและเข้าใจบทบาทของสถาบันหลักของชาติได้อย่างถูกต้อง  โดยจะพาสื่อมวลชนในท้องถิ่น จำนวน ๓๐ คน ร่วมกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร "ตามรอยพระราชดำริ"  
   การจัดกิจกรรมดังกล่าว ยังมีการจัดเสวนา "สื่อสุรินทร์  ก้าวตามรอยพระราชดำริ" จากผู้แทนสื่อมวลชน  เครือข่าย อป.มช. ผู้แทนเกษตรกรและประชาสัมพันธ์จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งจะทำให้เครือข่ายสื่อมวลชนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์จากพื้นที่จริง สามารถนำแนวทางศาสตร์พระราชา  หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ในการดำเนินชีวิตและขยายผลผ่านสื่อช่องทางต่างๆไปสู่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป







วันพฤหัสบดีที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2561

LINE MOVIE 15211621180031

www.srikho tv blogspot.com: ล่องใต้สายวัฒนธรรม  ไหว้ไปเที่ยวไป  อิ่มบุญเพลินใจ...

www.srikho tv blogspot.com: ล่องใต้สายวัฒนธรรม  ไหว้ไปเที่ยวไป  อิ่มบุญเพลินใจ...: ล่องใต้สายวัฒนธรรม  ไหว้ไปเที่ยวไป  อิ่มบุญเพลินใจ ไหว้พระชมเมือง ๔ จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เส้นทาง ชุมพร สุราษฎร์ธานี  นครศรีธรรมราช ...

ล่องใต้สายวัฒนธรรม  ไหว้ไปเที่ยวไป  อิ่มบุญเพลินใจ

ไหว้พระชมเมือง ๔ จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย

เส้นทาง ชุมพร สุราษฎร์ธานี  นครศรีธรรมราช  พัทลุง   ครั้งที่ 1   วันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 25761       ++ร่วมเดินทางเพื่อท่องเที่ยวไปยังวัดและสถานที่ทางวัฒนธรรมที่สำคัญทั้ง 4 จังหวัด                             ++ สินค้าของดี ของเด่นทั้ง 4 จังหวัด                                                                                                          ++ ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงทางวัฒนธรรม
โครงการส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในพื้นที่กลุ่มจังหวดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย กิจกรรมไหว้พระวัดสำคัญของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย
โดย  สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุราษฎร์ธานี  วันที่ 25 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2561 
วันจันทร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561  08.00 น.เดินทางถึง ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์  ตั้งอยู่บริเวณหาดทรายรีหาดทรายขาวสะอาดซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์สถานของ  พลเรือเอก พระบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้ทรงสถาปนากองทัพเรือสมัยใหม่ให้กับประเทศไทยทรงเป็นสมเด็จเตี่ยของชาวเรือ ทั้งปวงและเป็นที่เคารพสักการะของประชาชนทั่วไป  อนุสรณ์สถานประกอบด้วยศาลเจ้าพ่อกรมหลวงชุมพรฯหลังเก่าและหลังใหม่ ที่สร้างขึ้นบนเนินเขา  ซึ่งหาดทรายรีเป็นสถานที่สิ้นพระชนม์ของพระองค์ ตัวสาลอยู่บนเรือรบหลวงพระร่วงจำลองที่หันหน้าออกสู่ทะเล จึงเป็นจุดที่มองเห็นทิวทัศน์ของหาดทรายรีได้ชัดเจนตลอดเวิ้งอ่าว
   เวลา 09.00 น.แวะจุดชมเขามัทรี  เป็นแหล่งท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ ที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของชุมพร สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ถึง 360 องศา มองเห็นชุมชนปากน้ำชุมพรและชายหาดของทะเลชุมพร โดยเฉพาะในยามเย็นช่วยเวลาที่พระอาทิตย์ตกงดงามมาก บริเวณจุดชมวิวมีร้านกาแฟถ้ำสิงห์ พร้อมระเบียงชมวิวทัศนียภาพของปากน้ำชุมพร จุดชมวิวเขามัทรี ยังมีพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลาักษณะคล้ายกับท่านั่งขององค์จตุคามรามเทพ มองออกไปที่ชายทะเลชุมพร และทางด้านขวาเป็นหาดภราดรภาพ มองจากบนเขาเห็นชุมชนปากน้ำชุมพรเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นท่าเทียบเรือประมง


ชุมชนปากน้ำชุมพร
เวลา 10.00 น. แวะไหว้สักการะ วัดประเดิม (วัดสุทธาวาสธาราม) เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดชุมพร คำว่า "ประเดิม "หรือ ธารามเดิม  แปลว่า แรกเริ่มหรือประเดิมก่อนใคร  วัดประเดิมสร้างแต่ยุคใดไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด มีแต่คำบอกเล่าจากบรรพบุรุษที่เล่าสืบต่อกันมา ซึ่งมีโบราณวัตถุ โบราณสถานพอที่จะได้อ้างอิงยืนยันได้ว่าเป็นวัดโบราณ คือ  พระปรางค์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ   เจดีย์ที่สร้างด้วยอิฐโบราณอายุอิฐไม่ต่ำกว่า 700 ปี  เศียรพระพุทธรูปที่สร้างด้วยศิลาแลงและหินทรายแดง  กุฎิหลังใหญ่สร้างเมื่อปี พ.ศ.2473 
วัดประเดิม
 ช่วงเวลา 13.30 น. แวะท่่องเที่ยวไปวัดถ้ำขวัญเมือง  เป็นวัดที่มีความเก่าแก่และมีความสำคัญวัดหนึ่ง เพราะนอกจากจะเป็นสถาที่จัดพิธีกรรมทางศาสนาพุทธแล้วยังเป็นวัดที่เคร่งครัดในวินัยสงฆ์เป็นสำนักปฎิบัติธรรมประจำจังหวัดชุมพรแห่งหนึ่ง  โดยสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้รับรอง วัดถ้ำขวัญเมืองยังถูกจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิญพุทธของอำเภอสวีอีกด้วย ถ้ำขวัญเมือง(ถ้ำปู่ขาว) ภายในถ้ำเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวบ้านเคารพนับถือมาก วัดถ้ำขวัญเมืองเต็มไปด้วยป่าไม้และสัตว์ป่าสงวน เมื่อขึ้นไปบนยอดเขาที่เป็นพระเจดีย์ขวัญเมืองจะเห็นลานกว้างรอบพระเจดีย์ซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ของอำเภอสวีได้อย่างสวยงาม
และเวลา 13.50 เดินทางต่อไปยังวัดพระบรมธาตุสวี เพื่อสักการะพระธาตุสวีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสวี พรธาตุสวีเป็นพระธาตุเก่าแก่องค์ใหญ่อายุกว่า 700 ปี ลักษณะเป็นเจดีย์สีทอง ทรงระฆังคว่ำ สูงประมาณ 70 เมตร สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นที่สักการะของชาวสวีและประชาชนในจังหวัดใก้ลเคียง
เจดีย์วัดถ้ำขวัญเมือง
วัดพระบรมธาตุไชยาราชวรวิหาร
 เจดีย์พระบรมธาตูไชยาเป็นสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัยองค์เดียวที่ยังอยู่ในสภาพที่ดีที่สุด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นประมาณพุทธศตวรรษที่ 13-14 ไม่ปรากฎประวัติการสร้างและผู้สร้าง เข้าใจว่าสร้างในขณะที่เมืองไชยาสมัยศรีวิชัยกำลังเจริญรุ่งเรืองสูงสุด                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                               


ศาลหลักเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี












               
       

                                                          พระธาตุศรีสุราษฎร์

  1.                                                                                         พระธาตุศรีสุราษฎร์ หรือ พระธาตุเขา ท่าเพชร                                                                        ตั้งอยู่บนเนินเขาท่าเพชร สร้างเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์/2500 ตามแบบศิลปะศรีวิชัยผสมศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้น  ลักษณะพระธาตุเป็นรูปทรงสูงตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม วันที่ 27 มีนาคม 2502 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จนมัสการพระธาตุแห่งนี้ ต่อมาในปี พ.ศ.2527  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จแทนพระองค์ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระธาตุสาวก พร้อมทรงปลูกต้นไม้เป็นที่ระลึกอีกด้วย

                                                      สวนโมกขพลาราม                                                                                                                     ตั้งอยู่บริเวณเขาพุทธทอง  อำเภอไชยา เดิมชื่อวัดธารน้ำไหลมีท่านพุทธทาสภิกขุเป็นผู้ริเริ่มสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2502 เพื่อเป็นสถานที่แสวงหาความสงบและศึกษาธรรม มีโรงมหรสพทางวิญญาณ ประกอบด้วยภาพศิลป์ บทกวี คติธรรมคำสอนในพุทธศาสนานิกายต่างๆ ภาพพุทธประวัติ ภาพจำลองจากภาพหินสลัก เรื่องพุทธประวัติในอินเดีย รอบๆบริเวณร่มรื่น เหมาะสำหรับเป็นที่ฝึกอบรมจิตใจและศึกษาพุทธศาสนา 
                                                                                                                               
          วัดพัฒนาราม
หลวงพ่อพัฒน์ นารโท เป็นอดีตเจ้าอาวาสเป็นพระเกจิอาจารย์                                                                   เรืองวิทยาคมที่มีชื่อเสียงโด่งดังแห่งเมืองปักษ์ใต้ ได้รับความ                                                                        เลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนชาวเมืองสุราษฎร์และภาตใต้มาอย่างยาวนาน