srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันศุกร์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2567

ไวรัสตับอักเสบบี และ ตับอักเสบชี มหันตภัยร้าย ที่รักษาได้

 





##โครงการให้ความรู้และตรวจตับสัญจร #ไวรัสตับอักเสบบีและซี # มหันตภัยร้ายรักษาได้ ก่อนสายเกินแก้

   26 มกราคม 2567 ณ. ห้องประชุมสระโบราณโรงพยาบาลสุรินทร์

โดย นพ.ชวมัย สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ เป็นประธานในพิธีเปิด

   มี นพ.เผด็จ หนูพันธ์ หัวหน้าศูนย์ส่องกล้องโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวรายงาน

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับตับอักเสบชี นับเป็นภัยเงียบ ของทุกภูมิภาคทั่วโลก ดังจะเห็นได้จากข้อมูลขององค์กรอนามัยโลก เมื่อปีพุทธศักราช 2565 พบผู้ติดเชื้อไวรัส ตับอักเสบบีเรื้อรัง ประมาณ 257 ล้านคน และผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชี เรื้อรังประมาณ 71 ล้านคน สำหรับในประเทศไทยพบ ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีประมาณ 2.2 ถึง 3 ล้านคน และผู้ติดเชื้อไวรัส ตับอักเสบซีประมาณ 3-8 แสนคน พบใน ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป จากสถิติ การใช้บริการที่โรงพยาบาลสุรินทร์ในปีพุทธศักราช 2565-2566 พบผู้ติดเชื้อ ไวรัสตับอักเสบบีจำนวน 205,232 คน และมีผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชี จำนวน 424,499 คน ผู้ติดเชื้อมีจำนวน          เพิ่มมากขึ้น แสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามร้ายแรงด้านความมั่นคง ด้านสุขภาพและชีวิตของประชาชนทั่วโลก องค์กรอนามัยโลก และประเทศสมาชิก จึงได้ กำหนดเป้าหมายการกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซี ภายในปีพุทธศักราช 2573 ประกอบด้วยลดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีลายใหม่ร้อยละ 95 และลดการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชีรายใหม่ร้อยละ 80 ผู้ติดเชื้อตับอักเสบบีและชี ได้รับ การวินิจฉัยร้อยละ 90 ผู้ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและชี ได้รับการรักษามากกว่าร้อยละ 80 และอัตราการเสียชีวิต ที่เกี่ยวข้องกับโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ลดลงร้อยละ 65 โดยใช้มาตรการรณรงค์ป้องกันและดูแลรักษาที่สำคัญได้แก่ การให้ความรู้ การให้วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบและการตรวจคัดกรองและวินิจฉัยโดยเร็วและการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพ

  มูลนิธิตับอักเสบแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นองค์กรการกุศล ไม่แสวงหาผลกำไร บริหารงานโดยคณะอาจารย์แพทย์ จากโรงพยาบาลต่างๆซึ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2546 และได้รับเป็นองค์กรหรือสถานสาธารณกุศล ลำดับที่ 999 ตามประกาศของกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 771) ประกาศราชกิจจานุเบกษา  ณ.วันที่ 12 คนละกรกฎาคม 2564 ได้จัดโครงการให้ความรู้ และ ตรวจตับสัญจรขึ้น เพื่อรณรงค์ป้องกันโรคอย่างต่อเนื่องและให้ลงถึงชุมชน มากขึ้น โดยมีการให้ความรู้เกี่ยวกับโรคตับพร้อมทั้ง ให้บริการตรวจ คัดกรองหาเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและชี แก่ประชาชนฟรี รวมทั้งผู้ที่มีความเสี่ยง จะได้รับการตรวจ พังผืดตับ เพื่อส่งต่อเข้าสู่ระบบการรักษา ต่อไป และเพื่อกำจัดโรคไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบชี ให้หมดไปภายในปีพุทธศักราช 2573

  นพ.ชวมัย สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุรินทร์ กล่าวว่า จากคำกล่าวรายดังกล่าว จะเห็นได้ว่า วัตถุประสงค์ของโครงการ มุ่งเน้นที่การตรวจคัดกรอง เชื้อไวรัสตับอักเสบบีและ ไวรัสตับอักเสบซี แก่ประชาชน ที่มีอายุตั้งแต่ 31 -70 ปี รณรงค์ให้ ประชาชนตื่นตัวดูแลรักษา สุขภาพตับ ประเมินระดับ ความรุนแรงของการของภาวะตับแข็ง ของประชาชนในพื้นที่ จังหวัดสุรินทร์ และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้ ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น และเพื่อกำจัดโรค ไวรัสตับอักเสบบีและไวรัสตับอักเสบซีให้หมดไปภายในปีพุทธศักราช 2573

   ปัจจุบันสถานการณ์ของโรค เริ่มทวีความรุนแรง เพิ่มความยากลำบาก รายการรักษาและการดูแล ซึ่งมี ช่องทางการติดเชื้อ คือทางเลือด เพศสัมพันธ์ และการถ่ายทอดเชื้อจากแม่สู่ลูก เป็นเชื้อไวรัสที่อันตราย หากได้รับเชื้อแล้วไม่เข้าสู่กระบวนการรักษามีโอกาส เป็นตับอักเสบ เรื้อรัง ไตวาย ตับแข็งและมะเร็งตับได้ ถ้าประชาชนได้รับการตรวจคัดกรอง วินิจฉัยรักษา รวดเร็วตามเป้าหมาย ของกระทรวงสาธารณสุข และองค์กรอนามัยโลกจะทำให้สามารถลดอัตราการเสียชีวิต เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โรงพยาบาลสุรินทร์ ได้ตระหนัก ถึงสภาพปัญหาดังกล่าว จึงได้จัดโครงการให้ความรู้และตรวจตับสัญจรร่วมกับ มูลนิธิตับ แห่งประเทศไทยในหัวข้อเสวนา เรื่อง "ไวรัสตับอักเสบบีและซี " มหันตภัยร้ายรักษาได้ ก่อนสายเกินแก้ " เพื่อเป็นการคัดกรองให้ความรู้ และเสริมสร้างสุขภาพ อนามัยให้แก่ประชาชนชาวสุรินทร์ และจังหวัดใกล้เคียง ให้ห่างจากไวรัสตับอักเสบบีและซี สามารถดูแล และเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว##









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น