srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2566

โรงเรียนดังเมืองช้าง แถลงตอบโต้ เพจ facebook ของอดีตผู้สมัคร ส.ส ว่ารับส่วย ร้านค้า งบอาหารกลางวันเด็กนักเรียน และงบอาหารของคุณครู

 



โรงเรียนดังเมืองช้าง แถลงโต้  เพจดังของอดีต ผู้สมัคร ส.ส. ว่ารับส่วยร้านค้า-งบอาหารเด็กนักเรียน และอาหารครู ยืนยันทำถูกต้องทุกอย่าง


วันที่ 8 กันยายน 2566 - 10:00 น.










ร.ร.ดังเมืองช้าง แถลงโต้ อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคหนึ่ง กรณีบริหารจัดการอาหารกลางวันเด็กส่อแววไม่โปร่งใส วอนก่อนรับเรื่องอะไรให้สอบถามข้อเท็จจริงกับทางโรงเรียนด้วย..ปัญหาที่เกิดมาจากการเสียผลประโยชน์ของคนที่เคยได้ประโยชน์ตรงนี้

กรณี  อดีตผู้สมัคร ส.สได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองโรงเรียนและได้นำข้อร้องเรียนมาโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว  ระบุว่า รอง ผอ.ร.ร.แห่งหนึ่งในเมืองสุรินทร์ส่อแววใช้เงินของนักเรียนไม่โปร่งใส เด็กหยุดเรียนแต่ขอให้ออกบิลเก็บค่าอาหาร เก็บส่วยร้านค้า ถ้าไม่จ่าย ไม่ซื้อของด้วย


โครงการอาหารกลางวันนักเรียนระดับประถมศึกษาถือเป็นบริการสาธารณะของรัฐที่จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนมีสวัสดิการด้านการศึกษาและได้รับโภชนาการที่ดี ปัจจุบันโรงเรียนดังกล่าวมีการวางแนวทางการสั่งอาหารกลางวันนักเรียนคือ ใน 1 วัน จะมีอาหารนักเรียน 1 อย่าง + ผลไม้ และสั่งอาหารให้ครูเพิ่ม + 1 อย่าง

รวมเข้ากับค่าอาหารนักเรียน และยังมีการเก็บเงินเพิ่มจากบุคลากรครูในโรงเรียนอีกจำนวน 200 บาท/เดือน/คน(สำหรับคุณครูอยู่ที่ใครจะร่วมรับประทานอาหาร ไม่ทุกคน)

ยังอ้างว่า รอง ผอ.ร.ร.แห่งนี้มียังการสั่งของนอกรายการ เช่น กาแฟ ผงชง กระเช้าผลไม้ ฯลฯ รวมไปถึงเมื่อโรงเรียนมีงานกิจกรรมต่างๆ ให้นำค่าใช้จ่ายไปลงในรายการโครงการอาหารกลางวันนักเรียน ซึ่งควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบการใช้งบ เบิกจ่ายเพื่อป้องกันความเสียหายและรักษาผลประโยชน์ของนักเรียน

นอกจากนี้ในช่วงที่หยุดเรียน นักเรียนไม่ได้มาโรงเรียน แต่กลับมีการขอให้ร้านอาหารออกบิลใบเสร็จให้จำนวน 30,000 บาท/วัน และรอง ผอ.มีการเรียกรับเงินด้วยวาจาอย่างไม่เป็นทางการจากคู่ค้าร้านอาหาร ร้านแก๊สหุงต้ม ร้านเครื่องเขียน ฯลฯ จำนวน 50,000 บาท/ภาคเรียน หากไม่จ่ายให้โรงเรียนจะไม่ซื้อสินค้าด้วย

ทั้งนี้ อดีตผู้สมัคร ส.ส. จึงได้ส่งมอบเอกสารหลักฐานสำคัญไปหารือในรัฐสภาผ่าน ทาง        ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคการเมือง พรรคหนึ่ง เนื่องจากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวควรต้องมีตรวจสอบการใช้งบอย่างโปร่งใส ป้องกัน และปราบปรามการทุจริต ไม่ควรที่จะปล่อยปละละเลย จะทำให้โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงถูกทำลาย ไม่ใช่เพราะสถาบันการศึกษา แต่เพราะคณะผู้บริหารขาดความโปร่งใสและไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของนักเรียนเป็นสำคัญที่สุดได้


ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 กันยายน ที่โรงเรียนเมืองสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ คณะผู้บริหารสถานศึกษาและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมด้วยคณะกรรมการสถานศึกษา ได้แถลงชี้แจ้งกรณีดังกล่าวต่อผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์

โดย นายชีวิน ทองศรี ผอ.ร.ร.เมืองสุรินทร์ กล่าวว่า ในส่วนของโรงเรียน เดิมทีเรามีเจ้าเดียวที่เป็นคู่ค้ากับโรงเรียนตอนหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในได้เข้าตรวจสอบและให้เราปฏิบัติตาม อย่างเช่นร้านแก๊สเราก็เอาร้านแก๊ส ร้านผักเราก็เอาผัก คือแยกซื้อโดยตรงจากร้านแต่ละร้านเลย ซึ่งเดิมทีจะมีแค่เจ้าเดียวที่มาจัดการซื้อให้ มันเป็นการผูกขาดและหลังจากมีการร้องเรียนทางหน่วยงานก็ได้ลงสืบข้อเท็จจริงแล้ว ข้อมูลเราก็ได้ให้ไปหมดแล้ว ยืนยันว่าเราทำถูกต้องทุกอย่าง

ส่วนกรณีที่ร้องว่าค่าอาหารครูไปรวมเข้ากับค่าอาหารนักเรียน และยังมีการเก็บเงินเพิ่มจากบุคลากรครูในโรงเรียนอีกจำนวน 200 บาท/เดือน/คน นั้น คือเราจะไปกินอาหารกลางวันเด็กไม่ได้ เรามีการเก็บต่างหากเฉพาะครู ที่สมัครใจเพื่อที่จะประกอบอาหารให้ครูมารับประทาน เราจะเก็บเดือนละ 200 บาท ก็ตกวันละ 10 บาทต่อคน 200 บาทนี้ไม่ได้เก็บทุกคนแล้วแต่ครูท่านใดจะสะดวก เหมือนการผูกปิ่นโต ซึ่งช่วงปิดเทอมก็จะได้เงินที่เก็บนี้มาทำอาหารให้ครูกิน ครูต้องมาทำงานทุกวัน ถึงแม้ว่าโรงเรียนจะปิด ซึ่งไม่เกี่ยวกับเงินเด็ก คือเงินเด็กเราจะไปแตะไม่ได้เลย ตรงนี้สามารถมาตรวจสอบบัญชีได้เลย


นางพงศ์ทิพย์ สมชอบ คณะกรรมการสถานศึกษา กล่าวว่า แต่ก่อนมีเจ้าเดียวที่มีหมู มีไก่ มีกะทิส่งให้เรา เขาทำมาร่วม 10 ปีแล้ว แต่พอมาผู้บริหารยุคใหม่ ทางเทศบาล ทาง ป.ป.ช.เข้ามาบอกให้พวกเราทำทุกอย่างตามระเบียบ เช่น ผักให้ซื้อที่ร้านผัก หมูให้ชื้อที่ร้านหมู กะทิก็ให้ซื้อที่ร้านกะทิ แยกซื้อวัตถุดิบแต่ละอย่างจากร้านค้าโดยตรง โรงเรียนเราก็ทำตาม พอเราทำตาม คนที่เขาเคยทำก็เสียผลประโยชน์ และก็เกิดข้อร้องเรียนตรงนี้ขึ้น

นายเกรียงศักดิ์ สุขชีพ คณะกรรมการสถานศึกษา กล่าวว่า ในหลักเกณฑ์ของการทำอาหารกลางวันนั้น เมื่อก่อนมีผู้ส่งของเจ้าเดียว เป็นวัตถุดิบประกอบอาหาร ทำมานานแล้วตั้งแต่หลาย ผอ.ที่ผ่านมา แต่พอดีเขาเปลี่ยนระเบียบจากการที่ทางเทศบาลลงมาตรวจสอบเรื่องการใช้งบประมาณอาหารกลางวัน กับหน่วยตรวจสอบภายในของสำนักงานเขต 1 มาก็ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า

โรงเรียนควรจะหาผู้รับส่งของนี้แยกเป็นส่วนๆ ไป ทางโรงเรียนก็เลยดำเนินการให้เป็นไปทำตามระเบียบให้ถูกต้อง ตามที่แต่ละหน่วยงานแนะนำมา แต่พอทำไปแล้วเจ้าที่เคยส่งประจำก็เลยอาจขาดผลประโยชน์ ทางโรงเรียนก็ได้เชิญมาพูดคุยแต่เขาไม่รับฟัง ก็เลยเกิดเหตุขึ้นมาตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว และเขาก็น่าจะไปร้องต่อทางผู้สมัคร ส.ส.พรรคหนึ่งด้วย เหตุการณ์ก็เป็นไปตามนี้ ซึ่งการประกอบอาหารกลางวันเด็กที่นี่ก็ทำดีมาโดยตลอด แต่มันเกิดที่เราต้องทำตามระเบียบให้มันถูกต้อง ไม่อย่างนั้นทางโรงเรียนก็มีความผิด เหมือนเป็นการผูกขาดเจ้าเดียว

นางสุภัคร์ สุขกฤต รอง ผอ.ร.ร.เมืองสุรินทร์ กลุ่มบริหารงบประมาณ กล่าวว่า ในส่วนที่ว่าเรียกเก็บเงินของคุณครู ตรงนี้เราได้มีการประชุมทุกครั้งที่มีการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในโรงเรียน เราจะมีคณะทำงาน ในส่วนตรงนี้ไม่เกี่ยวกับอาหารเด็กนักเรียนเลย

ส่วนเรื่องกระเช้าก็เป็นเงินของโรงเรียน ไม่ได้เกี่ยวข้องในส่วนของอาหารกลางวันเด็กเลย และในส่วนที่ว่าเก็บเงินในช่วงที่ไม่มีเด็กมาเรียนก็เช่นกัน ในช่วงที่เด็กสอบเสร็จปิดเทอมคุณครูก็มาทำงานกันปกติอยู่แล้ว ทางโรงเรียนก็ได้ทำอาหารกลางวันไว้บริการคุณครู ส่วนตรงนี้เป็นเงินที่เราดำเนินการเอง ไม่เกี่ยวกับเงินอาหารกลางวันเด็กนักเรียนแต่อย่างใด ไม่ได้เบิกเงินของนักเรียนแม้แต่บาทเดียว และเราก็ได้ทำหนังสือชี้แจงไปยัง สนง.เขตเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่เกิดเรื่องเรียนขึ้นเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนตรงนี้ก่อนหน้านั้นทางโรงเรียนเราก็ได้ดำเนินต่อเนื่องเลยก็คือการสั่งซื้อจากผู้ค้าเพียงรายเดียว และทางเทศบาลซึ่งเป็นเจ้าของเงินก็ได้เข้ามาตรวจสอบเหมือนกับว่ามาตามเงิน เพราะเราได้รับเงินงบจากทางเทศบาลเมืองสุรินทร์

วันที่เข้ามาตรวจสอบท่านก็ไม่ได้แจ้งล่วงหน้าด้วยว่าจะมา ท่านก็มาดูว่าวันนั้นเราทำเมนูอะไรบ้างให้เด็ก ซึ่งวันนั้นจะเป็นน้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ซึ่งเป็นเมนูที่เด็กโปรดมาก แล้วเมนูต่างๆ เรามาจากโปรเกรม Thai School Lunch เราไม่ได้ทำอะไรโดยพลการ และท่านก็ได้มีการสอบถามถึงการดำเนินจัดซื้อจัดจ้างแบบไหน เราก็เลยบอกว่าสั่งจากร้านร้านเดียว

ท่านก็ได้แนะนำว่าควรจะกระจายหลายๆ ร้าน เพราะว่าจะเป็นการซื้อตรงจากผู้ค้า ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง และทางตรวจสอบภายในของเขตพื้นที่การศึกษา ก็ได้เข้ามาตรวจเหมือนกัน ก็ได้ให้คำแนะนำแบบเดียวกัน ซึ่งที่ผ่านมา ป.ป.ช.ก็ได้เข้ามาตรวจสอบเรื่องอาหารกลางวันด้วยเช่นกัน ซึ่งทุกอย่างก็ดำเนินการตามระเบียบถูกต้อง

ซึ่งหลังจากมีการร้องเรียนเกิดขึ้น มีผลกระทบต่อทางโรงเรียนค่อนข้างสูงมาก โดยเฉพาะตัวเองที่เป็นผู้ถูกร้อง ซึ่งเราไม่เคยทำอะไรโดยพลการ มีกรรมการสถานศึกษาคอยกำกับเราตลอด เราต้องการให้โรงเรียนพัฒนา เราทำคนเดียวไม่ได้ ถ้าไม่มีไม่ผ่านคณะกรรมการ ผู้บริหาร ขอให้เห็นใจคนทำงานด้วย บางทีเจอแบบนี้เราก็ท้อเหมือนกัน เราคนหนึ่งเด็กผู้หญิงคนหนึ่งก็รู้สึกเหมือนกัน หาสิ่งที่เป็นประโยชน์กับโรงเรียนก็ยังโดน

“ขณะที่เราเต็มที่กับงาน กับเด็ก เต็มที่กับทุกท่าน ไม่อย่างนั้นท่านผู้ใหญ่คงไม่เมตตาเราขนาดนี้ เห็นการทำงานเราที่ตั้งใจทำงานจริงๆ ก็ขอวอนขอความเป็นธรรมจากสังคมให้มองถึงจุดนี้ด้วย นางสุภัคร์ สุขกฤต” รอง ผอ.ร.ร.เมืองสุรินทร์ กล่าว

สำหรับโรงเรียนเมืองสุรินทร์ เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียนชาย-หญิง รวมทั้งสิ้น 2,258 คน มีครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 180 คน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น