srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ทริปตะลอนทัวร์อีสานใต้ เที่ยวสุรินทร์เมืองช้าง เมืองรองต้องไม่พลาด เป็นอีกเมืองหนึ่งที่น่าเที่ยว เพราะมีเรื่องราวกับผ้าไหมที่สวยงามที่สุดในโลกและก็แพงที่สุดเช่นกัน

    หมุดหมายแรกของทริปท่องเที่ยวตะลอนทัวร์อีสานใต้คราวนี้ ตั้งเข็มมุ่งตรงไปที่บ้านท่าสว่าง ตำบลท่าสว่าง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ อยู่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือของตัวจังหวัดประมาณ 10 กิโลเมตร เพื่อไปชมความงามของผ้าไหมสุรินทร์ อันเลื่องชื่อ โดยเฉพาะแหล่งผลิตทอและตัดเย็มชุดฉลองพระองค์ถวายแด่เจ้านายทุกพระองค์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก  ที่ผ่านมา  การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทเชื้อสายกูย ระบุว่า  ผ้าไหมทุกผืนที่ใช้สำหรับฉลองพระองค์งานพระราชพิธีล้วนทอโดยชาวบ้านจากจังหวัดสุรินทร์ โดยฉลองพระองค์รัชกาลที่ 10 ปักโดยช่างฝีมือหมู่บ้านท่าสว่าง นั้นเป็นแรงบันดาลใจให้เดินทางมาไกลถึงขนาดนี้ ซึ่งคุ้มค่ามากๆกับการได้มาชมความงามของผ้าไหมยกทองชอง กลุ่มทอผ้าจันทร์โสมา ที่มี อ.วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ครูศิลปของแผ่นดินด้านผ้าทอไหมยกทอง เป็นหัวหน้ากลุ่ม

เพิ่มคำอธิบายภาพ

 สำหรับงานทอผ้าไหมที่บ้านท่าสว่างนี้ จะเรียกว่าเป็นอะเมซิ่งไทยแลนด์ก็ว่าได้ เพราะกี่ที่ใช้ทอผ้านั้นไม่ธรรมดาใช้คนทอแต่ละผืนประมาณ 4-5 คน ได้รับการขนานนามในการทอผ้าว่า เป็นแหล่งทอผ้าไหม 1,416 ตะกอ ในการทอผ้าไหมแต่ละผืนทุกขั้นตอนต้องเป็นไปตามลำดับตะกอที่เก็บลายไว้ ผิดไม่ได้แม้แต่เส้นเดียวและต่อวันจะทอได้แค่ 5-7 เซนติเมตรเท่านั้น โดยผ้าผืนที่ยาวขนาด 2 เมตร จะใช้เวลาทอประมาณ 2 เดือน  ส่วนไหมที่นำมาทอนั้น ก็ละเอี่ยดนุ่มนวลย้อมสีธรรมชาติ ด้วยแม่สีสามสี คือ สีแดงจากครั่ง  สีเหลืองจากแก่นแก หรือแก่นขนุน สีครามจากเมล็ดคราม ราคาผ้าไหมถ้าทอแบบ 700-800 ตะกอ ราคาจะอยู่ที่เมตรละ 30,000 บาท ถ้าทอ 1,000 ตะกอขึ้นไป ราคาต่อเมตรอยู่ที่ 150,000-200,000 บาท ซึ่งต้องบอกว่าคนอย่างเราๆสูงเกินเอื้อมที่จะได้ใช้                                       
ออกจากบ้านท่าสว่างดูผ้าไหมเสร็จแล้วที่พลาดไม่ได้คือ หมู่บ้านเครื่องเงินเขวาสินรินทร์ หรือกลุ่มหัตถกรรมเครื่องเงินบ้านโชค เป็น  หมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในการผลิตลูกประคำที่ทำด้วยเงิน เป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านที่เรียกกันว่า ลูกประเกีอม ซึ่งมีลักษณะกลมๆคล้ายลูกประคำของไทย เพียงแต่ลูกประเกือมจะทำมาจากเม็ดเงินมีรูปทรงกลมและมีหลายขนาด เป็นภูมิปัญญาของชาวกัมพูชาที่ตกทอดกันมากว่า 200 ปี ส่วนใหญ่นิยมนำประเกือมมาร้อยเป็นเครื่องประดับ เช่นสร้อยคอ สร้อยข้อมือโดยมีลายหลากหลายรูปแบบ    นอกจากมีผ้าไหม เครื่องเงินแล้วจังหวัดสุรินทรยังมีแหล่งท่องเที่ยวในเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอีกมากมาย คือวนอุทยานพนมสวายสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์วัฒนธรรมทางพระพุทธศาสนาที่ร่องรอยอารยธรรมของชาวขอมโบราณหลอมรวมกลายเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น  คำว่า"พนมสวาย"เป็นภาษาพื้นเมืองของสุรินทร์มีความหมายว่าภูเขาไฟที่ดับสนิทแล้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกที่หนึ่งของสุรินทร์ เขาสวายเป็นภูเขาเตี้ยๆประกอบด้วยเขาสามลูก เขาชายหรือเขาพนมเปราะ มีบันไดก่ออิฐถือปูนยาวเหยียดขึ้นไปถึงด้านบนยอดเขาระหว่างทางขึ้นเป็นบันไดนั้นมีระฆัง 1,080 ใบแขวนอยู่ตลอดสองข้างทางขึ้นภูเขา ส่วนเขาอีกลูกหนึ่งคือ เขาหญิง หรือเขาพนมสรัย เป็นที่ตั้งของวัดพนมศิลารามซึ่งประดิษฐานพระพุทธสุรินทรมงคลพระพุทธรูปปางประทานพรประจำเมืองสุรินทร์ สวนยอดเขาดอก หรือเขาพนมรอล เป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทจำลองซึ่งย้ายมาจากยอดเขาชายบริเวณใก้ลกันมีสถูป สถานที่เก็บอัฐิธาตุพระราชวุฒาจารย์ หรือที่รู้จักในชื่อ หลวงปู่ดุลย์ อตุโล พระเกจิชื่อดังสายวิปัสสนา                                         
ระฆัง 1,080 ใบ
 ผอ.ททท.สำนักงานสุรินทร์ น.ส.ธมลวรรณ  เจริญวงศ์พิสิฐ  นำพาไปต่อที่ปราสาทศีขรภูมิดูปราสาทขอมโบราณที่มีอายุนับพันปีถ้าใครได้ไปกราบไห้วขอสิ่งใดก็จะสมหวัง จึงมีผู้คนเดินทางมากราบไห้วไม่เคยขาดสาย และ อีกอย่างที่อยากให้ไปขมมาดูกันคือผ้าไหมผ้าผกาโชค หรือดอกบัว ซึ่งเป็นผ้ามัดหมี่ที่มีองค์ปราสาทศีขรภูมิดอกบัวและช้าง ย้อมด้วยสีธรรมชาติจากไม้มงคล 9 ชนิด หมักด้วยโคลนใต้ดอกบัวราคาต่อผืนก็ประมาณ 500,000 บาท ไม่มากสำหรับคนที่มีเงินเหลือครับ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น