srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันพฤหัสบดีที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2566

สุรินทร์ รอง.ผบ.ทหารบกกัมพูชา พร้อมคณะกว่า 80 นายเดินทางเข้าร่วมการประชุม (RBC)กระชับความสัมพันธ์ทางทหารและความมั่นคงพื้นที่ชายแดน

สุรินทร์ รอง ผบ.ทหารบก กัมพูชา พร้อมคณะ กว่า 80 นาย เดินทางข้ามชายแดนเพื่อเข้าร่วมการประชุม (RBC)กระชับความสัมพันธ์ทางทหารและความั่นคงพื้นที่ชายแดน วันนี้( 16มีนาคม 2566 เวลา 08.30 น.ที่ด่านผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ พลตรีบุญสิน พาดกลาง รองแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นผู้แทนแม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พลตรีวีระยุทธ รักศิลป์ ผู้บัญการกองกำลังสุรนารี พ.ต.อ.ธนวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผกก.ตม.จ.สุรินทร์ คณะรองผู้บัญชาการ เสธนาธิการ รองเสนาธิการ กองกำลังสุรนารี ร่วมให้การต้อนรับ พลเอกโปว เฮง รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา พร้อมขึ้นแท่นรับความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ ก่อนเดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 จัดมาให้การรับ ส่ง ในการเดินทางไปร่วมประชุมที่จังหวัดนครราชสีมาในครั้งนี้ สำหรับการประชุมในครั้งนี้ กำหนดจัดขึ้นในห้วงวันที่ 16- 18 มีนาคม 2566เป็นครั้งที่ 24 มีฝ่ายไทย เป็นเจ้าภาพ ที่โรงแรมเซนทารา อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีพลโทสวราชย์ แสงผล แม่ทัพภาคที่ 2เป็นประธานการประชุมฝ่ายไทย และ พลเอกโปว เฮง รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 4 ราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานการประชุมฝ่ายกัมพูชา วัตถุประสงค์ เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหา ทบทวนถึงความก้าวหน้า และพัฒนาการในด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางทหาร และความมั่นคงตามแนวชายแดน กำหนดแนวทางการดำเนินการภายใต้กรอบคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ ในกรอบงานของคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย - กัมพูชา (RBC)

วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2566

ตำรวจเข้าจับกุมตรวจยึดไม้ประดู่ที่ชาวบ้านแปรรูปไว้ในที่ สปก.

เจ้าหน้าตำรวจเข้าตรวจยึดไม้ประดู่ที่ชาวบ้านแปรรูปในที่ สปก. เมื่อวันที่ 14 มี.ค 2566 เวลา 15.30 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ. อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ มอบหมายให้ พ.ต.ท. วิชิตเวช ต๊ะผัด รอง ผกก.สืบสวนฯ พ.ต.ต.สาโรจ ตระกูลโศภิษฐ์ สว.กก.สืบสวนฯ สั่งการให้ชุด ปทส.กก.สืบสวนฯ โดยมี ร.ต.อ. ปราโมทย์ เที่ยงธรรม รองสว.กก.สืบสวนฯ (หน.ชุด) ดต. ธวัช เจนรอบ ส.ต.อ. ณัฐวุฒิ ทศพร ส.ต.ท. สัจจกร โยธาจันทร์ ผบ.หมู่กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ สร.1 ได้ร่วมกันตรวจยึดของกลางคือ -ไม้ประดู่ จำนวน 11 เหลี่ยม ปริมาตร 0.59 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง 94.40 บาท คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 41,300 บาท สถานที่เกิดเหตุ(ตรวจยึด) บริเวณกระท่อมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือบ้านหนองตราด หมู่ที่ 7 ตำบลหนองแวง อำเภอศรีณรงค์ จังหวัดสุรินทร์ เวลา 15.30 น. วันที่ 13 มกราคม 2566 พิกัด DATUM WGS 84 ZONE 84 P 089945 E 1627943 N ข้อกล่าวหา หรือฐานความผิด ตาม พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 11 ฐาน "ทำไม้ห่วงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต" และมาตรา48 ฐาน "แปรรูปไม้หวงห้ามและมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเกิน 0.20 ลบ.ม. โดยไม่ได้รับอนุญาต" เจ้าหน้าที่ได้พบไม้ประดู่จำนวน 11 เหลี่ยมอยู่บริเวณข้างกระท่อมลักษณะใหม่สดมีร่องรอยการแปรรูปโดยใช้เลื่อยโซ่ยนต์จึงได้ประสานเผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยร่วมตรวจสอบพร้อมสอบถามว่าใครเป็นเจ้าของที่ดินและใครเป็นเจ้าของไม้ประดู่ใครเป็นคนแปรรูปไม้เมื่อเจ้าหน้าที่รับทราบจึงได้ทำการบันทึกตรวจยึดส่งพงส.สภ.ศรีณรงค์พร้อมของกลางเพื่อดำเนินการเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวทั้งหมดมารับทราบข้อกล่าวหาตามกฎหมายต่อไปเพราะว่าไม้ประดู่ถูกตัดในที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์มีเพียงเอกสาร สปก.เพื่อทำการเกษตรกรรมเท่านั้นไม่มีสิทธิ์ตัดไม้ใดๆทุกชนิดที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่เป็นไม้หวงห้าม หมายเหตุเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดได้บันทึกในบันทึกการตรวจยึดทั้งหมดแล้ว

ศาลาแทบแตก!! ประชาชนแห่เชียร์แม่ใหญ่จิ๋ว

พรรคภูมิใจไทย โดยนางชนมณี บุตรวงษ์(แม่ใหญ่จิ๋ว)ออกพบปะแกนนำชุมชนและพี่น้องประชาชน ในอำเภอชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เมื่อวันที่ 14 มี.ค.66 นางชนมณี บุตรวงษ์ (แม่ใหญ่จิ๋ว) ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 จว.สุรินทร์ พรรคภูมิใจไทย พร้อมคณะทำงาน ประมาณ 10 คน พบปะกลุ่มแกนนำและกล่าวปราศรัยฯ จำนวน 2 พื้นที่ โดยมีกลุ่มแกนนำร่วมกิจกรรมฯ และประชาชน จำนวน 1,500 คน ในช่วง เวลา 10.00 - 17.00 น. นางชนมณี บุตรวงษ์ ได้ลงพื้นพบปะประชาชนและกล่าวปราศรัยฯ ในจำนวน 2 พื้นที่ ได้แก่ ศาลาหมู่บ้านบ้านสระขุด หมู่ 1 และ ศาลาวัดอัมพวัน บ้านอ้อตะลิ่งชัน ต.สระขุด อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ โดยมีกลุ่มแกนนำร่วมกิจกรรมฯจำนวน 1,500 คน นางชนมณี บุตรวงษ์(แม่ใหญ่จิ๋ว) กล่าวแนะนำตัว และกล่าวปราศัยฯถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ประกอบด้วย ปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ราคาข้าวตกต่ำ ปัญหาหนี้สินในระบบและนอกระบบ ปัญหาด้านสุขภาพและสาธารณสุข พร้อมชี้แจงนโยบายของพรรคฯ ซึ่งได้แก่ นโยบายเกษตรร่ำรวย รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน โดยประกันราคา ข้าวขาว 12,000 บาท/ตัน ข้าวหอมมะลิ 18,000 บาท/ตัน มันสำปะหลัง กิโลกรัมละ 4 บาท และน้ำยางสด 62 บาท/กก., นโยบายพักชำระหนี้ 3 ปี หยุดจ่ายเงินต้นและปลอดดอกเบี้ย คนละไม่เกิน 1 ล้านบาท, นโยบายลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์ ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท/เดือน มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ผ่อนเดือนละ 100 บาท/60 งวด และนโยบายด้านสาธารณสุข โดยสร้างศูนย์ฟอกไตทุกอำเภอ/ศูนย์รักษามะเร็งทุกจังหวัด เพิ่มค่าตอบแทน อสม. เป็น 2,000 บาท/เดือน และกล่าวขอให้ประชาชนสนับสนุนตนเลือกตนเป็น ส.ส. สุรินทร์ เขต 4

นายอำเภอสังขะลงพื้นที่ช่วยเหลือคุณยายพิมพ์วัย79 ปี

นายอำเภอสังขะลงพื้นที่ช่วยเหลือคุณยายพิมพ์วัย 79 ปี ที่ใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก เก็บหมากขายประทังชีวิต กับลูกชายที่เป็นใบ้ วันที่ 14 มีนาคม 2566 เวลา 11.00 น. นายสันติ โอฆะพนม นายอำเภอสังขะ พร้อมด้วยนางสาวศิรินภา พัวพัฒนโชติ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเทพรักษา พ.ต.อ.ยุทธนา จาตุรัตน์ ผกก.สภ.ดม นางสาวพัชรี ทองหย่อน ปลัดอำเภอสังขะ กำนันสมบัติ พลศรี นายจีรศักดิ์ ภูผา ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ร่วมกันลงพื้นที่มอบเครื่องอุปโภค
บริโภคช่วยเหลือนางพิมพ์ ยิ่งดี บ้านศาลา หมู่ที่ 7 ตำบลเทพรักษา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก ยังชีพด้วยการเก็บหมากแห้งขาย และได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเดือนละ 800 บาท พอได้ซื้ออาหารกินประทังชีวิตไปในแต่ละวัน นายสันติ โอฆะพนม นายอำเภอสังขะ กล่าวให้สัมภาษณว่า หลังจากที่ได้รับทราบกรณีของคุณยายพิมพ์ ยิ่งดี ที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆนั้น วันนี้ตนเองและคณะทีมบำบัดทุกข์บำรุงสุขอำเภอสังขะได้ประสานงานกับองค์การบริหารส่วนตำบลเทพรักษา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อสม. อบต.และคณะผู้นำชุมชนได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือคุณยายพิมพ์ ส่วนกรณีไม่มีบ้านเลขที่นั้น จากการสอบถามปรากฏว่าเป็นบ้านหลังใหม่ที่มีผู้ใจบุญมาสร้างให้กับลูกชายที่เป็นใบ้และเป็นผู้ยากไร้ วันนี้ตนเองได้สั่งการให้ปลัดอำเภอลงมาทำการสำรวจและดำเนินการจัดทำทะเบียนบ้านให้ใหม่ อีกทั้งได้ประสานงานกับการไฟฟ้าให้เข้ามาช่วยดูแลเรื่องไฟฟ้าภายในบ้านของคุณยายพิมพ์ ร่วมทั้งน้ำดื่มน้ำใช้ ในขนาดเดียวกันก็มีผู้ใจบุญได้ร่วมกันบริจาควัสดุก่อสร้างเพื่อมาสร้างห้องสุขาใหม่ ซึ่งทางอำเภอสังขะจะได้จัดทีมชุดจิตอาสามาช่วยกันสร้างจนแล้วเสร็จ และต้องขอบคุณนางสาวศิรินภา พัวพัฒนโชติ นายกฯองค์การบริหารส่วนตำบลเทพรักษา ที่เข้ามาช่วยดูแลคุณยายพิมพ์ ซึ่งตอนนี้มีทีม อสม.จะเข้ามาช่วยดูแลคุณยายตลอด ทั้งนี้ นายชนะชล มูลจันทร์ ประธาน กต.ตร.สภ.บัวเชด ได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนไอยราพารวย ได้จัดซื้ออุปกรณ์วัสดุก่อสร้างเพื่อสร้างห้องสุขาใหม่ภายในตัวบ้านให้กับคุณยายพิมพ์ โดยได้รับความร่วมมือจาก นายอำเภอสังขะ ได้จัดทีมชุดจิตอาสาและชาวบ้านมาช่วยกันก่อสร้างโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

พิธีรับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว พระราชทานจากสมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

พิธีรับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าว พระราชทานจากสมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มี นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ เป็นประธานในพิธี รับพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน จากสมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีนายจิตรกร พรกวีรัตน์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลจารพัต และเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในปี 2565 ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ตำบลจารพัต มีเกษตรกรที่ได้รับความเสียหาย จำนวน 198 ราย พื้นที่นาข้าวได้รับความเสียหายเป็นจำนวน 1,631 ไร่ ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านตำบลจารพัต ได้ประสานศูนย์พัฒนาพันธุ์พืช จักรพันธ์เพ็ญศิริ เพื่อขอพระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ชาวบ้านผู้ประสบอุทกภัย เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร ที่ประสบปัญหาดังกล่าว ซึ่งมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ให้ความอนุเคราะห์สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 เพื่อแจกจ่ายให้เกษตรกร นำไปเพาะปลูกในปี 2566 ไร่ละ 15 กิโลกรัม โดยให้ศูนย์พัฒนาพันธุ์พืชจักรพันธ์เพ็ญศิริ ของมูลนิธิชัยพัฒนา นำส่ง ณ.วัดบ้าน พันษี จึงได้มีพิธีรับมอบเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 พระราชทาน แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในวันนี้ ในการนี้ สมเด็จพระขนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานเมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิ 105 ให้แก่ 1 บ้านพันษี หมู่ที่ 5 จำนวน 57 ครัวเรือน 2 บ้านตะแบก หมู่ที่ 6 จำนวน 50 ครัวเรือน 3 บ้านพม่า หมู่ที่ 9 จำนวน 38 ครัวเรือน 4 บ้านโคกเจริญ หมู่ที่ 12 จำนวน 29 ครัวเรือน 5 บ้านปูนทรัพย์ หมู่ที่ 18 จำนวน 24 ครัวเรือน รวม 198 ราย ข้าวหอมมะลิ 105 น้ำหนัก 24,465 กิโลกรัม

วันจันทร์ที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2566

จัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ช่วยเหลือสงเคราะห์การบำบัดยาเสพติด ของอำเภอศีขรภูมิ

อำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม ช่วยเหลือสงเคราะห์ผู้ผ่านการบำบัดยาเสพติดให้กลับไปดำรงชีวิตในสังคมได้ตามปกติ วันที่ 13 มี.ค.66 ที่ศาลาวัดป่าตามอ นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานอำนวยการศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม อำเภอศีขรภูมิ โดยมี พ.ต.ท.ชัยรัตน์ สมานรัตน์ รองผู้กำกับ สภ.ศีขรภูมิ นายสุชาติ เพชรงาม นายก อบต.ตรมไพร กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.หัวหน้าส่วนราชการและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานตามประมวลกฎหมายยาเสพติดที่ให้กระทรวงมหาดไทยจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมเพื่อติดตาม ดูแล ให้คำปรึกษา แนะนำ ให้ความช่วยเหลือ และสงเคราะห์แก่ผู้ติดยาเสพติดหรือผู้เข้ารับการบำบัดรักษาให้ได้รับบริการด้านสวัสดิการสังคม การสังคมสงเคราะห์ที่จำเป็นและเหมาะสม รวมทั้งช่วยเหลือสนับสนุนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราวเพื่อให้บุคคลดังกล่าวสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้โดยไม่กลับมากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ซึ่งการประชุมในครั้งนี้ ทางอำเภอศีขรภูมิ ได้มีการพิจารณาให้ความเห็นชอบจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมระดับอำเภอโดยมีนายอำเภอฯ เป็นหัวหน้าศูนย์ มีที่ตั้งอยู่ที่ศาลาวัดป่าบ้านตามอ ฯ นอกจากนี้ มีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคม มีที่ตั้งอยู่ที่ ศาลาวัดป่าบ้านตามอ โดยหลังจากนี้จะมีการขึ้นทะเบียนศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมตามระเบียบกฎหมายต่อไป สำหรับคุณสมบัติของผู้ที่จะเข้ารับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม จะต้องเป็นผู้ที่สมัครใจขอเข้ารับการบำบัดรักษาผ่านสถานพยาบาลยาเสพติดหรือศูนย์คัดกรองผู้เสพผู้ติดยาเสพติด ผ่านการประเมินความรุนแรงของการติดยาเสพติด มีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจที่จะเข้ารับการฟื้นฟู โดยจะมีการสนับสนุนให้ความช่วยเหลือ สงเคราะห์ในด้านต่างๆ ได้แก่ ด้านสวัสดิการสังคม ด้านสังคมสงเคราะห์ ด้านที่อยู่อาศัยชั่วคราว ด้านอาชีพ ด้านการศึกษา ด้านเงินทุนสงเคราะห์ ด้านสุขภาพ ด้านอาชีพในสถานประกอบการ ด้านส่งเสริมครอบครัวและชุมชน และด้านช่วยเหลือสงเคราะห์อื่นๆ โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงาน ป.ป.ส.