ปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทุกช่วงวัยด้วยพลังทุกภาคส่วน กรณีศึกษาสุรินทร์

กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทุกช่วงวัย ด้วยพลังทุกภาคส่วน กรณีศึกษาสุรินทร์ จังหวัดต้นแบบสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา วันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 09:00 น. ณ ห้องรัตนสยาม โรมแรมทองธารินทร์ จังหวัดสุรินทร์ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ มอบหมายให้ นางทรงลักษณ์ วรภัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทุกช่วงวัย ด้วยพลังทุกภาคส่วน กรณีศึกษาสุรินทร์ จังหวัดต้นแบบสร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โดยมี ดร.สมพงษ์ จิตประดับ กรรมการบริหารกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา และประธานอนุกรรมการส่งเสริมและพัฒนาเยาวชน และประชากรวัยแรงงานนอกระบบ คณะกรรมการจัดการศึกษาพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ คณะกรรมการสมัชชาการศึกษาจังหวัดสุรินทร์ นางนัทธมน ศิริรัตนวานิช รองนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กรรมการ อนุกรรมการ ผู้บริหาร และ คณะทำงาน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา หัวหน้าส่วนราชการ คณะผู้จัด ผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ดังกล่าว เพื่อเชื่อมโยงกลยุทธ์การทำงานภายในสำนักต่างๆ ของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เชื่อมโยงการทำงานภาคียุทธศาสตร์ทุกภาคส่วน ทั้งส่วนกลางและพื้นที่ อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน ภาคเอกชน และกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (ก.ศ.) เพื่อจัดการความรู้และสื่อสารสร้างความเข้าใจอันนำไปสู่การทำงานขับเคลื่อนนโยบายระดับพื้นที่และระดับประเทศ อีกทั้งเป็นการสื่อสารผลการดำเนินงานของ กสส. และภาคี ต่อสาธารณะและกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ด้วยแนวทางบูรณาการ ระดับพื้นที่ จากนั้น ได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ สานพลังเครือข่ายทุกภาคส่วน ปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาทุกช่วงวัย เราขอประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันว่า "คนสุรินทร์ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" มุ่งมั่น สานพลังภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ปิดช่องว่างความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ทุกช่วงวัย เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชนจังหวัดสุรินทร์ ให้เป็นคนเก่ง ดี มีงานทำ

ข้าวหอมมะลิ กข.15

ข้าวหอมมะลิ กข.15 วันนี้ได้เวลาเก็บเกี่ยวแล้ว ข้าว กข15 หรือ ข้าวหอมมะลิ กข15 หรือ ข้าวมะลิน้อย ที่ชาวบ้านเรียกขานกันนั้น เป็นข้าวหอมมะลิพันธุ์เบาที่มีช่วงการเก็บเกี่ยวเร็วกว่า ข้าวหอมมะลิ 105 ประมาณหนึ่งเดือน เป็นข้าวที่เกษตรกรในภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นิยมปลูกกัน ใบยาว ค่อนข้างแคบ - เมล็ดข้าวเปลือกสีฟาง ปลายบิดงอเล็กน้อย - ระยะพักตัวของเมล็ดประมาณ 7 สัปดาห์ - เมล็ดข้าวเปลือก ยาว x กว้าง x หนา = 10.7 x 2.5 x 1.9 มิลลิเมตร - เมล็ดข้าวกล้อง ยาว x กว้าง x หนา =7.5 x 2.1 x 1.7 มิลลิเมตร - คุณภาพข้าวสุก นุ่ม มีกลิ่นหอม ผลผลิต - ประมาณ 560 กิโลกรัมต่อไร่ ลักษณะเด่น - ทนแล้งได้ดีพอสมควร - อายุเบา เก็บเกี่ยวได้เร็ว - คุณภาพการหุงต้ม นุ่ม มีกลิ่นหอม - คุณภาพการสีดี เมล็ดข้าวสารใส แกร่ง เรียวยาว - นวดง่าย - ต้านทานโรคใบจุดสีน้ำตาล ข้อควรระวัง - ไม่ต้านทานโรคขอบใบแห้ง โรคไหม้ - ไม่ต้านทานแมลงบั่ว เพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลและหนอนกอ - ล้มง่าย ฟางอ่อน เมล็ดร่วงง่าย พื้นที่แนะนำ - ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ผู้ว่าเมืองช้างเอาจริงกับการแก้ปัญหายาเสพติด

ผู้ว่าเมืองช้างเอาจริง แถลงผลการจับกุมเครือข่ายคดียาเสพติด ตามยุทธการ “ คชสารขจัดสิ้นยาเสพติด” จับกุมคดีความผิดร้ายแรง ๑๐๕ ราย ผู้ต้องหา ๑๓๐ คน ของกลางยาบ้า ๒๕๐ เม็ด ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ เวลา ๑๓.๐๐ น. ณ ภ.จว.สุรินทร์ ตามนโยบายรัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด กําหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ต้องดําเนินการอย่าง จริงจังทั้งระบบ โดยเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ความสําคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมจากทุกภาค ส่วน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงการปราบปราม แหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ทั้งพื้นที่แนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน โดยให้เป็นการแก้ไขปัญหาภายในของประเทศด้วยกฎหมายไทยและ หลักสากล นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ เป็นประธานร่วมประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติด เมื่อ ๑๐ ต.ค.๖๕ ณ กระทรวงมหาดไทย กําหนดให้ทุกหน่วยงาน บูรณาการข้อมูลผู้เกี่ยวข้องยาเสพติด ซึ่ง กําหนดให้ ผวจ. เป็นแม่งาน และได้สั่งการให้ทุกหน่วยเร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่ รับผิดชอบ ระดมกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ ดําเนินการปิดล้อมตรวจค้น และทําลายเครือข่าย ตัดวงจรยา เสพติดทุกระดับ ดําเนินการสืบสวนจับกุมขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดให้ได้ผลอย่างต่อเนื่องและจริงจังส่วนผู้เสพ ให้นําเข้ารับการบําบัด จังหวัดสุรินทร์ ภายใต้การอํานวยการของ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป ผบ.กองกําลังสุรนารี พล.ต. สาธิต เกิดโภค ผบ.มทบ.๒๕ พ.อ.กิตติพงษ์ พุทธิมณี รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัด สุรินทร์(ฝ่ายทหาร) พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์(ปส) และ พ.ต.อ. ชัยณรงค์ บุญด้วง รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตํารวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ระดมสรรพกําลังร่วมกันสืบสวน จับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสําคัญในพื้นที่ ห้วงตั้งแต่วันที่ ๑๐ ต.ค.๒๕ เป็นต้นมา และในวันที่ ๔ พ.ย.๖๕ เวลา ๐๔.00 น. จังหวัดสุรินทร์ได้เปิด “ยุทธการ คชสารขจัดสิ้นยาเสพติด” โดยสนธิกําลังทุกหน่วยงานเข้าปิดล้อม ตรวจค้นเป้าหมาย เน้นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด แหล่งพักยาเสพติด และอาวุธปืนพร้อมกันทุกพื้นที่ รวมทั้งสิ้น ๕๕ เป้าหมาย ผลการปฏิบัติโดยรวม มีดังนี้ • จับกุมผู้ต้องหา จํานวน ๒๔๒ คดี ผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น ๒๗๐ คน แบ่งออกเป็น ๑. ผู้ค้า /ยา จํานวน ๑๐๕ ราย ๒. ผู้เสพ/ครอบครองเพื่อเสพ จํานวน ๑๓๗ ราย 3. ผู้สมคบสนับสนุน จํานวน - ราย ๔. ผู้เสพสมัครใจเข้ารับการบําบัด จํานวน ๑๑๐ ราย • ตรวจยึดของกลางยาเสพติด แบ่งออกเป็น ๑. ยาบ้า(เมทแอมเฟตามีน) จํานวน ๒๗,๖๓๐ เม็ด ๒. ยาไอซ์ จํานวน ๖.๑๖ กรัม • ของกลางอาวุธปืน ๘๐ กระบอก แบ่งออกเป็น ๑. อาวุธปืนยาว จํานวน ๒๕ กระบอก ๒. อาวุธปืนพกสั้น จํานวน ๒๓ กระบอก ๓. อาวุธปืนไทยประดิษฐ์-ปากกา จํานวน ๓๑ กระบอก ๔. วัตถุระเบิด จํานวน ๑ ลูก ๕. เครื่องกระสุนปืน จํานวน ๒๐๗ ลูก โดยผู้ค้า ผู้สมคบ ผู้สนับสนุน ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ดําเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดโดย ไม่มีข้อยกเว้น สําหรับผู้เสพ ได้ส่งเข้ารับการบําบัดฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายตามกระบวนการบําบัดรักษา ของกระทรวงสาธารณสุข ต่อไป เพื่อให้จังหวัดสุรินทร์ของเราเป็นสังคมที่ปลอดภัยจากยาเสพติด ขอขอบคุณกําลังพลทุกนาย ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่ได้ปฏิบัติการในวันนี้จนเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ และจะยังคงสถานะการกวาดล้างยาเสพติดต่อไปอย่างต่อเนื่อง จังหวัดสุรินทร์ และตํารวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน และสถาน ประกอบการ ทุกแห่ง ในการแจ้งเบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้ง ผู้เสพ ผู้ค้า นอกและในสถาน ประกอบการฯ หรืออาศัยสถานประกอ บการฯ ในการกระทําผิด โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ , สายด่วน ๑๙๑ , Application Police | lert U และ ศูนย์ดํารงธรรมจังหวัดสุรินทร์ สายด่วน ๑๕๖๗ ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดําเนินการปราบปราม จับกุม ดําเนินคดีผู้กระทําความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายา เสพติด และอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด

ยุทธการคชสาร ขจัดสิ้นยาเสพติด

ปฏิบัติการ "ยุทธการคชสาร ขจัดสิ้นยาเสพติด” อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ (4 พ.ย.65) เวลา 05.00 น. นายกองโท เสนีย์ มะโน นายอำเภอปราสาท ได้เป็นประธานการปล่อยแถวกวาดล้างยาเสพติด ปิดล้อม ตรวจค้น จับกุม ภายใต้ “ภายใต้ยุทธการคชสาร ขจัดสิ้นยาเสพติด” โดยได้บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครอง สมาชิก อส. ร้อย อ.ส. อ. ปราสาทที่ 4 จนท.ตำรวจสภ.ปราสาท สภ.ทุ่งมน สภ.โชคนาสาม สภ.ทมอ ตชด. 217 กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ออกปฏิบัติการปิดล้อม ตรวจค้น พื้นที่เป้าหมาย จำนวน 9 จุด ผลการปฏิบัติการฯสามารถจับกุม ผู้ค้า จำนวน 1 ราย ผู้ครอบครอง 1 ราย ผู้เสพ จำนวน 10 ราย มีของกลาง เป็น เมทแอมเฟตามีน(ยาบ้า) จำนวน 385 เม็ด อาวุธปืน 1 กระบอก เครื่องกระสุนปืน 5 นัด ขณะนี้ อยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม

กฐินสามัคคีอำเภอศีขรภูมิ

กฐินสามัคคี อำเภอศีขรภูมิ ทอด ณ. วัดบ้านหนองปรือ ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ วันที่ 2 พฤศจิกายน 65 ตั้งองค์กฐิน ณ.บริเวณหลังสถานีรถไฟศีขรภูมิ ฉลองสมโภชองค์กฐิน พระสงฆ์จำนวน 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ โดยมีนายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ เป็นประธานในพิธี และหัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ประชาชนเข้าร่วมในพิธี ฉลององค์กฐิน เพื่อนำไปทอดถวายยังวัดบ้านหนองปรือ ต.จารพัต เพื่อ ทะนุบำรุงพระพุทธศาสนา ปฏิสังขรณ์ พระอุโบสถ วัดบ้านหนองปรือ โดยประชาชนในอำเภอศีขรภูมิร่วมกันบริจาค สร้าง บุญกุศล ด้วยกัน ให้เกิดความรักความสุขเป็น ศิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว เพื่อสืบสาน ประเพณีดีๆ ให้แก่ลูกหลานได้ยึดถือปฏิบัติสืบไป ทุกท่านที่ร่วมทำบุญกฐินในครั้งนี้ ขอให้อำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่มีอยู่ในสากลโลกนี้ จงดลบันดาลปกป้องคุ้มครองแก่ท่านและครอบครัวให้ ประสบแต่ความสุขความ เจริญ รุ่งเรือง ประกอบด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณธนสารสมบัติตลอดกาลนานเทอญ

อบต.พระแก้ว จัดแยกขยะสร้างชุมชนให้น่าอยู่ ดูแลสุขภาพของชาวบ้าน ให้ปลอดโรคปลอดภัย

อบต.พระแก้ว จัดคัดแยกขยะสร้างชุมชนให้น่าอยู่ ดูแลสุขภาพชาวบ้านให้ปลอดโรคปลอดภัย วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 นายธีระศักดิ์ กันนิดา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพระแก้ว อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ พร้อมฝ่ายบริหารและทีมสาธารณสุข ผู้ใหญ่บ้าน อสม.ร่วมกันจัดการสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมเพื่อดูแลสุขภาพชาวบ้าน โดยการตรวจสุขภาพให้กับชาวบ้านทั้ง 18 หมู่บ้าน และให้ความรู้เรื่องการบริหารขยะในชุมชน โดยการจัดหาถังขยะเพื่อคัดแยกขยะแห้ง ขยะเปียก และจัดการขยะให้ถูกสุขลักษณะ บ้านหรือที่พักอาศัยถือเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นสถานที่ที่ประชาชนใช้ในการอยู่อาศัย และทำกิจกรรมต่างๆ ของบุคคลในครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบันวิถีชีวิตและสภาพของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป การทำงานที่รีบเร่งแข่งกับเวลา ทำให้ประชาชนละเลยต่อสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว และไม่มีการจัดการดูแลที่พักอาศัยที่เหมาะสม โดยเฉพาะในเรื่องของการสุขาภิบาลขั้นพื้นฐานในครัวเรือน เช่น ความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อย การปรุง-ประกอบอาหารที่ถูกสุขลักษณะ น้ำดื่มน้ำใช้ที่สะอาดและเพียงพอการจัดการมูลฝอย น้ำเสีย รวมทั้งสัตว์และแมลงพาหะนำโรค หรือละเลยการสร้างพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลที่ดีของตนเองและสมาชิกในครอบครัว ก็อาจส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจโรคระบบทางเดินอาหารที่มีอาหารและน้ำเป็นสื่อ ไวรัสตับอักเสบ โรคไข้เลือดออก เป็นต้น โรคต่างๆ เหล่านี้ล้วนเป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ โดยการจัดการด้านการสุขาภิบาลที่พักอาศัย การสุขาภิบาลสิ่งแวดแวดล้อมและการปรับปรุงพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลให้ถูกต้องและเหมาะสม องค์การบริหารส่วนตำบลพระแก้ว นำโดยนายธีระศักดิ์ กันนิดา นายกฯอบต.พระแก้ว ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ และใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด จึงได้จัดทำโครงการ จัดการสุขาภิบาลและสิ่งแวดล้อมตามพระราชดำริ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการสุขาภิบาลที่พักอาศัย การสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมขั้นพื้นฐานในครัวเรือน ส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกันปรับปรุงสภาพแวดล้อมทั้งภายในบ้านและบริเวณบ้านโดยรอบ ให้ถูกต้องและเหมาะสม ตามหลักสุขาภิบาล รวมทั้งสร้างพฤติกรรมอนามัยส่วนบุคคลที่ดีตลอดจนการมีส่วนร่วมพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมในหมู่บ้าน/ชุมชน นับเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของประชาชนในทุกครัวเรือน ให้มีความใส่ใจต่อสุขภาพ และอนามัยสิ่งแวดล้อมที่ดี โดยเริ่มปลูกฝังตั้งแต่ระดับครัวเรือน และขยายผลสู่ชุมชนต่อไป

ชมรมวิทยุและโทรทัศน์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ข่าวช่องONE31 แจกถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย อำเภอรัตนบุรี

ชมรมวิทยุและโทรทัศน์จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ข่าวช่อง ONE 31แจกถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤตน้ำท่วมในอำเภอรัตนบุรี วันที่ 1 พ.ย.2565 เนื่องด้วยทางชมรมวิทยุและโทรทัศน์จังหวัดสุรินทร์ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ข่าวช่องONE31 จัดกิจกรรม นำถุงยังชีพ 800 ชุด ไปมอบช่วยเหลือชาวบ้าน ที่ถูกแม่น้ำมูลไหลหลากเข้าท่วม ในพื้นที่ตำบลทัพใหญ่และดอนแรด ได้รับความเดือดร้อน ที่นาข้าวเสียหาย จึงประสานทางสำนักงานข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง ONE 31 โดยได้รับการสนับสนุน รถบรรทุกขนถุงยังชีพ จาก ผบ.กองกำลังสุรนารี ประสาน ผู้บังคับกองพันทหารราบที่3 กรมทหารราบที่23 (ผบ.23พัน3) พ.อ. สมเด็จ พวงผกา นำกำลังทหารและรถบรรทุกขนถุงยังชีพ จำนวน 800ชุด ไปยังที่ว่าการอำเภอรัตนบุรี เวลา 10.00น. จากนั้นรถ อส.อำเภอ และ นายดุษฎี ดวงใจ (ป.ใหญ่)ปลัดอำเภอรัตนบุรีนำไปยังหมู่บ้านจานที่กำนันตำบลทับใหญ่ นางจันทร์ดี จ้อยสระคู ได้จัดสถานที่ไว้ ณ. ศาลาวัดบ้านจานเป็นพื้นที่ที่กำนันกำหนดแจกถุงยังชีพ ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจำนวน 500 ครัวเรือน จากนั้นไปต่อที่ตำบลดอนแรดอีก 300 ชุดแจกกับประชาชนที่ได้รับความเดือนร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้