srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2565

อำเภอบัวเชดจัดกิจกรรมน้อมรำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันปิยมหาราช

อำเภอบัวเชด จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ในวันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี เป็นวันปิยมหาราช นายบรรลุ สุวรรณดี รักษาการนายอำเภอบัวเชด นำหัวหน้าส่วนราชการ-พ่อค้า ประชาชน วิสาหกิจชุมชน จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลา 08.30น. ณ.บริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอบัวเชด จ.สุรินทร์ นายบรรลุ สุวรรณดี รักษาการนายอำเภอบัวเชด จ.สุรินทร์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้าประชาชน รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรม น้อมลำรึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณหอประชุมที่ว่าการอำเภอบัวเชด นายบรรลุ สุวรรณดี รักษาการนายอำเภอบัวเชด ประธานในพิธีกล่าวถวายสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยคณะราชการและพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่ได้มาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพียง ณ.ที่แห่งนี้ล้วนมีจิตใจตั้งมุ่งมั่นเพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ ตลอดรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอเนกประการเพื่อวางรากฐานการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงทรงมีพระปรีชาญาณอันกว้างไกลในด้านการปกครองทรงตั้งโรงเรียนหลวงเพื่อวางรากฐานการศึกษาแก่ราษฏรทุกหมู่เหล่าทรงประกาศเลิกทาสทรงยกเลิกระบบไพร่เพื่อนำพาประเทศไทยก้าวสู่ความทันสมัยทัดเทียมนานาอารยประเทศทรงดำเนิน นโยบายในการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับนานาประเทศช่วยสร้างความมั่นคงแก่ประเทศและคงไว้ซึ่งเอกราชของชาติไทยยังความร่มเย็นเป็นสุขแก่ราษฏรโดยถ้วนหน้าได้ทรงดำรงมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรมอีกทั้งทรงพระวิริยะอุสาหะปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการทำให้พสกนิกรชาวไทยสามารถดำเนินชีวิตด้วยความผาสุกมั่นคงในทุกสถานการณ์ของบ้านเมือง แม้พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคตคาลัยแล้วแต่พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ยังคงผลิตออกดอกออกผลและให้ความร่มเย็นยังคงเปรียบดุจดังแสงสว่างที่คอยชี้นำแนวทางในการดำรงชีวิตแก่พสกนิกรและจะยังคงสถิตในดวงใจของเหล่าปวงชนชาวไทยสืบไป                                  

วันปิยมหาราช 23 ตุลาคมของทุกปี

ihvp7xJG1eH_S4fRUR6oQTx_cMqsB67PsuhGO63hv_qMHLGUn77vD6V5cqfiaXWdCpMSFUvomo_Cg9OYY/s4160/20221023_085048419.jpg" style="display: block; padding: 1em 0; text-align: center; ">
วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม ของทุกปี อำเภอศีขรภูมิ จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ นำหัวหน้าส่วนราชการ-พ่อค้า ประชาชน วิสาหกิจชุมชน จัดกิจกรรมน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เวลา 08.30น. ณ.บริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ นายแพทย์เมธี มวลไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอศีขรภูมิ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้าประชาชน รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 228 หมู่บ้าน 13 อบต. 2 เทศบาล ได้เดินทางมาร่วมกิจกรรม น้อมลำรึกในพระมหากรุณาธิคุณ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอศีขรภูมิ นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิประธานในพิธีกล่าวถวายสักการะ เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยคณะราชการและพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ที่ได้มาชุมนุมกันอย่างพร้อมเพียง ณ.ที่แห่งนี้ล้วนมีจิตใจตั้งมุ่งมั่นเพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดไม่ได้ ตลอดรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจอเนกประการเพื่อวางรากฐานการพัฒนาประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคงทรงมีพระปรีชาญาณอันกว้างไกลในด้านการปกครองทรงตั้งโรงเรียนหลวงเพื่อวางรากฐานการศึกษาแก่ราษฏรทุกหมู่เหล่าทรงประกาศเลิกทาสทรงยกเลิกระบบไพร่เพื่อนำพาประเทศไทยก้าวสู่ความทันสมัยทัดเทียมนานาอารยประเทศทรงดำเนินวิเทโศบายในการเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับนานาประเทศช่วยสร้างความมั่นคงแก่ประเทศและคงไว้ซึ่งเอกราชของชาติไทยยังความร่มเย็นเป็นสุขแก่ราษฏรโดยถ้วนหน้าได้ทรงดำรงมั่นอยู่ในทศพิธราชธรรมอีกทั้งทรงพระวิริยะอุสาหะปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการทำให้พสกนิกรชาวไทยสามารถดำเนินชีวิตด้วยความผาสุกมั่นคงในทุกสถานการณ์ของบ้านเมือง แม้พระองค์จะเสด็จสู่สวรรคตคาลัยแล้วแต่พระราชกรณียกิจน้อยใหญ่ยังคงผลิตออกดอกออกผลและให้ความร่มเย็นยังคงเปรียบดุจดังแสงสว่างที่คอยชี้นำแนวทางในการดำรงชีวิตแก่พสกนิกรและจะยังคงสถิตในดวงใจของเหล่าปวงชนชาวไทยสืบไป                                       จากนั้นเวลา 10.00 น.จิตอาสาพระราชทาน ร่วมกันทำกิจกรรม เราทำความดีด้วยหัวใจเนื่องในวันปิยมหาราช นำโดย นาย กิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ ร่วมกับจิตอาสา พัฒนาปรับปรุง ตกแต่งภูมิทัศน์ ตัดหญ้า กิ่งไม้บริเวณสวนหย่อมถนนเลียบทางรถไฟศีขรภูมิ ให้ดูแลสะอาดงามตา เป็นแหล่งพักผ่อนของพี่น้องประชาชน

วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สภ.บัวเชดทำลายอาวุธปืนของกลางที่ศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

สภ.บัวเชด ทำลายอาวุธปืนของกลางที่ศาลพิพากษาให้ริบ จำนวน 15 คดี อาวุธปืนจำนวน 16 กระบอก พร้อมระดมเจ้าหน้าที่ตรวจเข้มแก้ปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ วันที่ 21 ตุลาคม 2565 เวลา 13.00 น พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ ไชยณรงค์ศักดิ์ ผกก.สภ.บัวเชด ในฐานะประธานกรรมการฯทำลายอาวุธปืนของกลาง พ.ต.ท.สุรพศ ผมหอม สว.(สอบสวน) สภ.บัวเชด ร.ต.อ.บุญชู วงศ์ศักดิ์ ด.ต.พรศักดิ์ คำชมภู และ ส.ต.อ.ไตรภพ สมพร ได้ร่วมกันทำลายอาวุธปืนของกลางที่ศาลมีคำพิพากษาสิ้นสุดไปแล้ว ให้ริบเป็นของกลางให้ตกเป็นของแผ่นดิน ในปีงบประมาณ 2565 จำนวน 15 คดี รวมอาวุธปืนจำนวน 16 กระบอก โดยได้ทำลายแปรสภาพไม่ให้นำกลับมาใช้ได้อีก โดยการใช้เครื่องเลื่อยตัดทำลายและนำไปเผาไฟ พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ ไชยณรงค์ศักดิ์ ผกก.สภ.บัวเชด เปิดเผยว่า หลังจากการทำลายอาวุธปืนของกลางในครั้งนี้แล้ว ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ยังได้สั่งการให้สถานี้ตำรวจภูธรบัวเชด ได้เพิ่มความเข้มในการตรวจตรา ระดมกวาดล้างอาวุธปืนและอาชญากรรมทุกรูปแบบ อย่างต่อเนื่องหากประชาชนพบเบาะแสว่าผู้ใดมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายให้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด เพื่อจะได้เข้าไปดำเนินการตรวจยึดจับกุมเพื่อป้องกันการนำมาก่อเหตุความรุนแรงสร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นได้

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2565

อำเภอสังขะ จัดงานแสดงแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมนานาชาติครั้งที่ 1

อำเภอสังขะ!!! จัดงานแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติครั้งที่ 1 มีฑูตวัฒนธรรมกว่า 30 ประเทศเข้าร่วม วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 นายธาตรี สิริรุ่งวนิช นายอำเภอสังขะ เป็นประธานเปิดงานเทศกาลศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทยไทย ณ.ลาดกิจกรรมอำเภอสังขะ โดยมีนางกิ่งกาจน์ พัวไพฑูรย์ นายกเทศมนตรีตำบลสังขะ เป็นประธานกล่าวรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงานดังกล่าว ด้วยอำเภอสังขะได้ร่วมกับมูลนิธิศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติ มูลนิธิส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรมจังหวัดสุรินทร์ สภาวัฒนธรรมอำเภอสังขะ จัดโครงการ เทศกาลศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านนานาชาติแห่งประเทศไทย Thailand International Folklore Festival ( ThailandIFF หรือ ไทยแลนด์ดีฟ ) ระหว่างวันที่ 21 – 22 ตุลาคม 2565 โดยมีคณะบุคคล สถาบันในประเทศสมาชิกคือ มหาวิทยาลัย สถาบันทางศิลปวัฒนธรรม สถาบันการศึกษา โรงเรียน องค์กร นิติบุคคลทางศาสนาและองค์กรที่ยูเนสโกรับรอง ที่น่าเชื่อถือทั่วโลกกว่า 36 ประเทศ ในงานดังกล่าวนี้ มีผู้แทนแต่ละประเทศนำคณะศิลปินมาแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ชาติพันธ์ พิธีกรรม ประเพณีและความเป็นพื้นบ้าน สัมมนาและจัดค่ายวิชาการ ความสัมพันธ์วิถีไทยวิถีพุทธและวิถีโลก การประกาศสันติภาพโลก และหลักสูตรภูมิปัญญาท้องถิ่นและความเป็นนานาชาติ มีทั้งสิ้น 15 ประเทศได้แก่ Bulgaria 8 คน Cambodia 8 คน China 6 คน Hungary 15คน India 10 คน Indonesia 16คน Italy 13คน Korea 22คน Mexico 28 คน Myanmar 8 คน Philippines 13 คน Pakistan 7 คน Poland 8 คน Sri Lanka 15 คน และ Vietnam 4 คน รวมเป็น 15 ประเทศ จำนวนศิลปินนานาชาติ 181 คน รูปแบบการจัดกิจกรรม มีการลงนามความร่วมมือระหว่างผู้แทนอาคันตุกะศิลปินนานาชาติทุกประเทศกับผู้นำท้องถิ่น รวมทั้งให้คำรับรองประเทศ เขตมรดก ล้ำค่าต่อสาธารณชนโลก ยกย่องเชิดชูประกาศเกียรติคุณพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบควบคู่กับการประกาศหมู่บ้านศีลห้า ที่ดีเด่นเป็นหมู่บ้านในฝันสันติภาพโลก เพื่อเผยแพร่ทาง Platform ต่างๆแก่สาธารณชนทั่วโลก มีการทำบุญผ้าป่านานาชาติทอดถวาย ณ สำนักปฏิบัติธรรม “สติภาวนาภิรตาราม” อาคันตุกะศิลปินนานาชาติจัดแสดงนาฏศิลป์และดนตรีให้ชมแลกเปลี่ยนกับนักแสดงชาวไทย ณ.อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์

ผู้ว่าฯสุรินทร์เปิดประชุมใหญ่ชาวไร่อ้อย ประจำปี 2565

ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดงานการประชุมใหญ่ชาวไร่อ้อย ประจำปี 2565 ณ บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด วันที่ 20 ตุลาคม 2565 เวลา 09:30 น. ณ บริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด ตำบลปรือ อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดการประชุมใหญ่ชาวไร่อ้อย ประจำปี 2565 ที่ทางสมาคมชาวไร่อ้อยจังหวัดสุรินทร์ และบริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด ได้ร่วมจัดขึ้นในครั้งนี้ เพื่อพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน รวมทั้งรับข้อมูลข่าวสารต่างๆได้และชมนวัตกรรมใหม่ๆในการปลูกอ้อย รวมถึงเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อเพิ่มผลผลิตและลดต้นทุนการผลิตในการปลูกอ้อยของเกษตรกร โดยมี นายยงยุทธ เสถียรถิระกุล กรรมการผู้จัดการและคณะกรรมการบริษัท น้ำตาลสุรินทร์ จำกัด ให้การต้อนรับ มี นายกองโทเสนีย์ มะโน นายอำเภอปราสาท พันตำรวจเอกยศศักดิ์ โพธิ์สุวรรณ ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรอำเภอปราสาท หัวหน้าส่วนราชการ ผู้แทนชาวไร่อ้อยจากสมาคมต่างๆ สมาชิกชาวไร่อ้อย สื่อมวลชน และประชาชนจำนวนมาก เข้าร่วมพิธี ภายในงานประกอบด้วย การจัดนิทรรศการให้ความรู้ทางด้านวิชาการเกษตร มีสมาชิกชาวไร่อ้อยจากจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี เข้าร่วมประชุมประมาณ 13,000 คน ขอบคุณภาพข่าว#ปุรุศักดิ์ แสนเกล้า#

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2565

สะพายเป้ถือกล้องท่องท่องเที่ยวไปกับรถไฟ เส้นทางหนองคาย- เวียงจันทน์(สปปลาว)

สะพายเป้ถือกล้อง ท่องเที่ยว ไปกับรถไฟ เส้นทาง หนองคาย-เวียงจันทร์ (สปปลาว) เส้นทางรถไฟระหว่างประเทศไทยและประเทศลาว คือ รถไฟเส้นทาง หนองคาย – เวียงจันทร์ โดยมีจุดขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟหนองคาย และจุดลงรถไฟในประเทศลาว คือ สถานีรถไฟท่านาแล้ง บ้านโคกโพสี เมืองหาดทรายฟอง นครหลวงเวียงจันทน์ (สปปลาว.) เป็นรถไฟที่ให้บริการแก่นักเดินทางทั้ง 2 ประเทศ ได้เดินทางข้ามแดนกันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น โดยรถไฟสายนี้จะวิ่งข้ามแม่น้ำโขงที่สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว ที่ 1 ( มีรางรถไฟอยู่กลางสะพาน เส้นทางรถไฟ หนองคาย – ท่านางแล้ง มีระยะทางทั้งหมด 5.35 กิโลเมตร โดยมีระยะทางในประเทศลาว 3.5 กิโลเมตร โดยมีสถานีรถไฟท่านางแล้งเป็นจุดจอดของรถไฟ ( สถานีรถไฟท่านางแล้ง เป็นสถานีรรถไฟแห่งแรกและแห่งเดียวของประเทศลาว) ใช้เวลาวิ่งจากสถานีรถไฟหนองคาย – สถานีรถไฟท่านาแล้ง ประมาณ 15 นาที เส้นทางรถไฟ หนองคาย – ท่านางแล้ง เปิดให้บริการเมื่อ วันที่ 5 มีนาคม 2552 สำหรับการเดินทางข้ามประเทศด้วยรถไฟ ท่านต้องมีเอกสารการเดินทาง เช่น หนังสือเดินทาง ( passport) หนังสือผ่านแดน หรือ หนังสือผ่านแดนชั่วคราวที่ออกให้ ณ ศาลากลางจังหวัดหนองคาย อย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อใช้ในการเดินทางผ่านด่านพรมแดนประเทศลาว ดังนั้น ท่านใดที่วางแผนการเดินทางไปเที่ยวเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาว ท่านสามารถเดินทางด้วยรถไฟขบวนนี้จากสถานีรถไฟหนองคายข้ามไปเมืองเวียงจันทร์ ประเทศลาวได้อย่างสะดวก ตารางเวลาเดินรถไฟ หนองคาย – ท่านางแล้ง ขบวน 481 ออกหนองคาย 07:30 น. ถึง ท่านาแล้ง 07:45 น. ขบวน 482 ออกท่านาแล้ง 10:00 น. ถึง หนองคาย 10:15 น. ขบวน 483 ออกหนองคาย 14:45 น. ถึง ท่านาแล้ง 15:00 น. ขบวน 484 ออกท่านาแล้ง 17:30 น. ถึง หนองคาย 17:45 น. สามารถติดต่อซื้อตั๋วรถไฟได้ที่สถานีรถไฟหนองคาย ราคาค่าตั๋วโดยสาร รถชั้น 3 ราคา 20 บาท/คน รถชั้น 2 ราคา 30 บาท/คน ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม สถานีรถไฟหนองคาย โทร. 042-411-592