srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันพุธที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2565

ทต. เปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ สุขใจวัยละออ

ทต.สังขะเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ “สุขใจวัยละออ” ต้นแบบการจัดการสุขภาวะ พึ่งพาตนเอง พัฒนาศักยภาพ และหวังช่วยลดภาวะซึมเศร้าในกลุ่มผู้สูงอายุ วันที่ 7 กันยายน 2565 เวลา 09.30 น. นางกิ่งกาญจน์ พัวไพฑูรย์ นายกเทศมนตรีตำบลสังขะ นายเฉลิมชัย นามม่วง ประธานสภาฯ พร้อมกับคณะผู้บริหารเทศบาลตำบลสังขะ ร่วมกันเปิดโรงเรียนผู้สูงอายุ”สุขใจวัยละออ” เทศบาลตำบลสังขะ อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต การจัดการศึกษา การพัฒนาทักษะ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ และกิจกรรมของโรงเรียนผู้สูงอายุจะเป็นเรื่องที่ผู้สูงอายุสนใจและมีความสำคัญต่อการดำเนินชีวิต ช่วยเพิ่มพูนความรู้ ทักษะชีวิตที่จำเป็น โดยวิทยากรจิตอาสาหรือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขณะเดียวกันก็เป็นพื้นที่ที่ผู้สูงอายุจะได้แสดงศักยภาพ โดยการถ่ายทอดภูมิความรู้ประสบการณ์ ที่สั่งสมแก่บุคคลอื่น เพื่อสืบสานภูมิปัญญาให้คงคุณค่าคู่กับชุมชน นางกิ่งกาญจน์ พัวไพฑูรย์ นายกเทศมนตรีตำบลสังขะ กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า โรงเรียนผู้สูงอายุมีกิจกรรมที่หลากหลายตามความต้องการของผู้สูงอายุ หรืออาจเป็นการขยายกิจกรรมจากที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว เช่น ศูนย์บริการทางสังคม แบบมีส่วนร่วม (ศาลาสร้างสุข) ศูนย์สามวัย ธนาคารความดี เป็นต้น โรงเรียนผู้สูงอายุสามารถมีรูปแบบและกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับบริบทและความต้องการของผู้สูงอายุ การจัดกิจกรรมของโรงเรียนผู้สูงอายุ #วัตถุประสงค์ของโรงเรียน 1. เพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตและการจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิตของผู้สูงอายุ 2. เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตนเอง การดูแล คุ้มครอง และพิทักษ์สิทธิผู้สูงอายุ 3. เพื่อเสริมสร้างสุขภาพที่ดีของผู้สูงอายุทั้งด้านร่างกายและจิตใจ 4. เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงอายุสร้างสรรค์ประโยชน์แก่ชุมชนและสังคม 5. เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ คุณค่าภูมิปัญญาผู้สูงอายุให้เป็นที่ประจักษ์และยอมรับ 6. เพื่อส่งเสริมภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นให้ดำรงสืบทอดต่อไป #ประโยชน์ที่ผู้สูงอายุได้รับจากโรงเรียนผู้สูงอายุ 1. ด้านสุขภาพร่างกาย ทำให้มีสุขภาพแข็งแรง กระฉับกระเฉง ลดความเสี่ยงจากการเจ็บป่วย ลดระยะเวลาการพึ่งพาผู้อื่น อายุยืน 2. ด้านจิตใจ ช่วยให้คลายเหงา จิตใจกระชุ่มกระชวย สดชื่น รู้สึกภาคภูมิใจและตระหนักในคุณค่า ความสามารถของตนเอง มีมุมมองเชิงบวกต่อตนเอง 3. ด้านสังคม มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนวัยเดียวกันและคนต่างวัย ได้รับการยอมรับในฐานะสมาชิกกของกลุ่ม 4. ด้านจิตปัญญา รู้เท่าทันและเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น สามารถปรับตัวและดำเนินชีวิตได้อย่างเหมาะสมตามวัย 5. ด้านเศรษฐกิจ เรียนรู้ทักษะทางด้านอาชีพ สามารถนำไปประกอบอาชีพสร้างงาน สร้างรายได้ ช่วยเหลือตนเองต่อไป

พรรครวมแผ่นดิน คัดเลือกตัวแทนพรรคเขต 3 จังหวัดสุรินทร์

พรรครวมแผ่นดิน คัดเลือกตัวแทนพรรค ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 3 จังหวัดสุรินทร์ วันนี้ที่ 7 ก.ย.65 เวลา 9.30 น.ที่วัดโคกก่อง ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ พรรครวมเเผ่นดิน นำ พล.ต.พิชิต บุตรวงษ์ รองหัวหน้าพรรครวมแผ่นดิน นายเฉลิมพล (กรรมการบริหารพรรค)และสมาชิกพรรคเข้าร่วมประชุม โดยได้จัดประชุมเลือกตัวแทนพรรคจังหวัดสุรินทร์ เขต 3 มีการเชิญ กกต.จังหวัดสุรินทร์เข้าร่วมรับฟังและสังเกตการประชุมในครั้งนี้ด้วย ผลการเลือกตัวแทนพรรครวมแผ่นดินเขต3 นางชนมณี บุตรวงษ์ ได้รับเลือกให้เป็นตัวแทนพรรครวมแผ่นดิน และเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรครวมแผ่นดิน จังหวัดสุรินทร์ เขต 3 นางชนมณี บุตรวงษ์ ได้กล่าวขอบคุณสมาชิกพรรค ที่เลือกตนเป็นตัวแทนของพรรคเขต 3 จังหวัดสุรินทร์ ตนให้สัญญาว่าจะยืนอยู่เคียงข้างกับพี่น้องประชาชนตลอดไป พบง่ายเข้าถึงพึ่งได้ พล.อ.วิชญ์ ได้ให้ความมั่นใจว่าทางพรรคมีความพร้อมและสู้ตามกติกา อีกทั้งอยากให้มีการผลักดันคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาทต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่างๆ มากขึ้น ตอนนี้ตั้งใจส่งเสริมเรื่องกีฬาให้มากขึ้น เพราะเป็นรากฐานของความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม เพราะเมื่อร่างกายคนเราแข็งแรง ก็มีสุขภาพกายและใจดี ก็จะทำให้ประชาชนใช้ชีวิตประจำวันอย่างมีความสุข

วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2565

จับชาวกัมพูชาลักลอบตัดไม้หวงห้าม

จับเขมร ลักลอบตัดไม้หวงห้าม พื้นที่ช้องตะปู เจ้าหน้าที่สนธิกำลังจัดชุดลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง วันที่ 6 กันยายน 2565 เวลา 17.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.เฉลิมศักดิ์ ไชยณรงค์ศักดิ์ ผกก.สภ.บัวเชด พ.ต.ต.ชรินทร์ เดชฤทธิ์ หัวหน้าชุดสืบสวน สภ.บัวเชด ร.ต.อ.ชูชีพ บาลพิทักษ์ ชุดหน้าตำรวจตระเวนชายแดนที่214 นายพินิจ บุญสมบัติ หัวหน้าชุด เจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า ห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายเมียน นี ชาวกัมพูชา อายุ 52 ปี บ้านตะเปียงเตา ต.ตะเปียงเตา อ.อันลองเวง จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา บริเวณป่าทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือช่องกะปูตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยของกลาง 1.ไม้ประดู่แปรรูป จำนวน 1 เหลี่ยม ปริมาตร 0.6 ลบ.ม ค่าภาคหลวง 9.60บาท มูลค่าเสียหาย 2,100บาท 2.เลื่อยตัด จำนวน 1 ปื้น 3.ขวาน จำนวน 1 ด้าม 4.ไฟฉายคาดศีรษะ จำนวน 1 ดวง 5.อาวุธปืนไทยประดิษฐ์(ปืนแก๊ป) จำนวน 1 กระบอก 6.ดิวประสิวบรรจุใส่ขวดเอ็มร้อย จำนวน 1 ขวด 7.ดอกแก๊ป จำนวน 103 ดอก 8.เม็ดตะกั่ว จำนวน 31 เม็ด โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกับพวกที่หลบทำไม้โดยมิได้รับอนุญาต,ร่วมกับพวกที่หลบหนีแปรไม้หวงห้ามในเขตควบคุมการแปรรูปไม้โดยมิได้รับอนุญาต, ร่วมกันกับพวกที่หลบหนีเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต, หลบหนีและเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต,มีอาวุธปืน(ปืนแก๊ป)ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนและมีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ไม่ได้รับอนุญาต จึงได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งร้อยเวรสอบสวน สภ.บัวเชด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นพค.54 สร้างบ้านดินจิตอาสา ให้กับผู้ยากไร้

สุรินทร์ นพค.54 สร้างบ้านดินจิตอาสา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ให้กับผู้ยากไร้เทิดไท้องค์ราชัน (หลังที่ 3 ) เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2565 กองบัญชาการกองทัพไทย (หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา) โดย พันเอกกิรชิต คุณาวงค์ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 54 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย จัดกำลังพลจิตอาสา 904 พร้อมกำลังของหน่วย.ฯ ร่วมกับประชาชนจิตอาสาชุมชนบ้านลำพุก ในการดำเนินการ “สร้างบ้านดินจิตอาสา หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา” ให้กับผู้ยากไร้เทิดไท้องค์ราชัน (หลังที่ 3 ) ให้กับ นายฎยศวตพรต ภาสดาธีรนาต (ช่างจิตอาสาที่ช่วยสร้างบ้านจำนวน 5 หลัง) ณ บ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 14 บ้านลำพุก ตำบลตาเบา อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ สร้างความปลาบปลื้มใจ ให้กับนายฎยศวตพรต ภาสดาธีรนาต และครอบครัว เป็นอย่างมาก ที่ หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 54 สำนักงานพัฒนาภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ไม่ทิ้งประชาชน ปุรุศักดิ์ แสนกล้า รายงาน

โครงการบริหารจัดการขยะอันตรายในชุมชนของจังหวัดชลบุรี

องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรีร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 94 แห่ง บริหารจัดการปัญหาขยะอันตรายชุมชน ไปกำจัดตามหลักสุขาภิบาล ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี นายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานเปิดโครงการบริหารจัดการขยะอันตรายชุมชนจังหวัดชลบุรี ปีงบประมาณ 2565 โดยมีนายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี กล่าวรายงาน คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ให้การต้อนรับ สำหรับโครงการดังกล่าว ได้มีการบูรณาการร่วมกันระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชลบุรี เพื่อแก้ไขปัญหาขยะอันตรายชุมชน ที่เป็นปัญหาสำคัญ ระดับประเทศ ก่อให้เกิดผลกระทบในด้านต่างๆ ทั้งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน ระบบนิเวศวิทยา การปนเปื้อนทางน้ำ การเกิดมลพิษทางอากาศ การปนเปื้อนในดิน ผลกระทบต่อพืชและสัตว์ โดยขยะอันตรายชุมชนมีอยู่ทั้งในที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน และร้านค้าต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการขยะอันตรายชุมชนให้ เป็นไปตามหลักสุขาภิบาล ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี ในฐานะหน่วยงานหลักที่ได้รับมอบหมายจากจังหวัดชลบุรี ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการบริหารจัดการ ขยะอันตรายชุมชนได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ระหว่าง เทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบล ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวน 94 แห่ง ร่วมกันบริหารจัดการขยะอันตรายชุมชน ตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 และประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การจัดการมูลฝอย พ.ศ. 2560 โดยครั้งนี้ดำเนินการรวบรวมขยะอันตรายชุมชน จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จำนวนทั้งสิ้น 12,906 กิโลกรัม และให้บริษัท บางปู เอนไวรอนเมนทอล คอมเพล็กซ์ จำกัด ในการนำขยะอันตรายชุมชนไปกำจัดตามหลักสุขาภิบาลต่อไป ภาพข่าว วิศาล///ชลบุรี

วันจันทร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2565

เจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่า จับกลุ่มหนุ่มวัย 28 ปี พร้อมซากสัตว์

เจ้าหน้าที่รักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯสนธกำลังเจ้าหน้าสายตรวจส่วนกลาง ตชด.ร้อย ฉก.214 ตำรวจ สภ บัวเชด จับกุมหนุ่มวัย28 พร้อมซากสัตว์ป่าหวงห้าม วันที่ 5 กันยายน 2565 เวลา 11.00 น. นายพินิจ บุญสมบัติ เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยสำราญ พ.ต.ต.ชรินทร์ เดชฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด นายวิวัฒน์ อาจวาที เจ้าหน้าที่สายตรวจส่วนกลาง ร.ต.อ.ชูชีพ บาลพิทักษ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ฉก.214 ได้ร่วมกันจับกุมนายมงคล ใจมนต์ อายุ 28 ปี บ้านเลขที่ 106 หมู่ที่ 10 ตำบลบัวเชด อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ พร้อมของกลาง ซากหมู่ป่า น้ำหนัก 24 กิโลกรัม จำนวน 1 ตัว ซากอีเห็นช้างลาย จำนวน 1 ตัว ดินประสิวบรรจุในขวดแก้ว 1 ขวด โคมไฟคาดศีรษะ 1 อัน ค้อน 1 อัน มีดปลายแหลม 1 เล่ม กระเป๋าเป้แบบสะพายหลังสีดำ 1 ใบ และรถจักรยานยนต์ 1 คัน นายมงคล ใจมนต์ ให้การรับสารภาพว่า คนได้เข้าป่าบริเวณด้านทิศตะวันออกบ้านโอทะลัน ตำบลจรัส อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ เพื่อเข้าไปดักจับสัตว์ป่า ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 4 กันยายน 2565 จนกระทั่งเช้าวันที่ 5 กันยายน 2565 สามารถจับสัตว์ป่าได้2ตัว คืออีเห็นและหมู่ป่า จึงนำใส่กระสอบและขี่รถจักรยานยนต์ออกจากป่าเพื่อกลับบ้าน แต่ถูกเจ้าหน้าที่ที่ดักซุ่มรออยู่เข้าทำการตรวจค้น และถูกจับกุมพร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าห้วยสำราญ พร้อมชุดจับกุมจึงได้นำตัวนายมงคล ใจมนต์ พร้อมของกลางส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด โดยกล่าวหาว่า ผิด พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พศ.2562 มาตรา 53 วรรคหนึ่ง ฐาน เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 55 วรรคหนึ่ง ฐาน เก็บหา นำออกไป กระทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายหรือกระทำการอื่นใดอันส่งผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศหรือความหลากหลายทางชีวภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต ผิด พรบ.เครื่องกระสุนปืนฯ ฐาน ทำเครื่องกระสุนปืนที่ทำด้วยดินปืนมีควันสำหรับใช้เอง โดนไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่โดยผิดกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎต่อไป

เทศบาลตำบลสังขะจัดระเบียบทางเท้า

เทศบาลตำบลสังขะ ลงพื้นที่จัดระเบียบทางเท้า หลังได้รับเรื่องร้อนเรียนจากชาวบ้าน ตำรวจ สภ.สังขะ พร้อมร่วมมือจัดระเบียบเพื่อความเรียบร้อยในพื้นที่ตลาดสังขะ นางกิ่งกาญจน์ พัวไพฑูรย์ นายกเทศมนตรีตำบลสังขะ พร้อมคณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขะ ร่วมกันลงพื้นที่บริเวณตลาดสามเหลี่ยมและตลาดสด อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน เรื่องการวางสิ่งของกีดขวางทางเดินบนทางเท้า และเรื่องพ่อค้ารถเร่ที่จอดรถกีดขวางทางเดินรถ ทำให้ประชาชนที่มาซื้อสินค้าไม่มีที่จอดรถและประชาชนทั่วไปไม่สามารถเดินบนทางเท้าได้ เบื้องต้นทางเทศบาลตำบลสังขะ ได้ขอความร่วมมือกับพ่อค้าแม่ค้าและร้านค้าต่างๆ โดยการไม่ตั้งวางสิ่งของบริเวณทางเท้า ฟุตบาท หรือสิ่งของอื่นๆ ที่กีดขวางทางเท้า เพื่อร่วมกันในการจัดระเบียบทางเท้าและฟุตบาทให้ประชาชนเดินสัญจรได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยสำนักงานเทศบาลตำบลสังขะ ได้มีขั้นตอนดำเนินงานในการจัดระเบียบทางเท้า 3 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 ขอความร่วมมือ ประชาสัมพันธ์ เชิญชวนสร้างจิตสำนึกให้เจ้าของอาคาร เจ้าของร้านค้า ห้างร้าน เคลื่อนย้ายสิ่งของที่กีดขวางทางเท้าออกจากพื้นที่ด้วยตนเอง ระยะที่ 2 ควบคุมบังคับใช้ตามกฎหมาย ในกรณีที่ประชาชนไม่ให้ความร่วมมือโดยการบังคับใช้พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องมาใช้ดำเนินการ ระยะที่ 3 สำนักงานเทศบาลตำบลสังขะ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สังขะ จะเข้ามาบูรณาการดำเนินการจัดระเบียบปรับปรุงทางเท้า ให้สามารถสัญจรได้อย่างปลอดภัย มีภูมิทัศน์ที่เป็นระเบียบร้อยและสวยงาม กรณีที่มีการฝ่าฝืน เป็นความผิดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติรักษาความสะอาด และความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 แก้ไขเพิ่มเติมถึงฉบับที่ 2 พ.ศ.2560 มาตรา17 ห้ามจอดรถยนต์ รถจักรยานยนต์ บนทางเท้า ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท มาตรา 20 ห้ามจำหน่ายสินค้าบนถนนหรือสถานที่สาธารณะ (ขายของริมถนน หรือบนทางเท้า ฟุตบาท) ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท มาตรา 39 ห้ามตั้งวางสิ่งของใดๆ ในที่สาธารณะ (วางกระถางต้นไม้ สิ่งของบนทางเท้า ฟุตบาท) ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท นางกิ่งกาญจน์ พัวไพฑูรย์ กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้คณะผู้บริหารเทศบาลตำบลสังขะ ได้ลงพื้นที่มาขอความร่วมมือจากพ่อค้าแม่ค้าและร้านค้าต่างๆ ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการตีเส้นจราจรสำหรับจอดรถ เพื่อจัดระเบียบในการจอดรถทุกประเภท อีกทั้งการปรับปรุงทางเดินทางเท้า เพื่อให้ประชาชนที่มาซื้อสินค้าสัญจรไปมาอย่างปลอดภัย