srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันพุธที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

ไทยเบฟ รวมใจมอบไออุ่น แจกผ้าห่ม ต้านภัยหนาวปีที่ 24

 “ไทยเบฟ” รวมใจมอบไออุ่น แจกผ้าห่มต้านภัยหนาวปีที่ 24


ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลได้รับผลกระทบเรื่อง “ภัยหนาว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน เมื่อถึงฤดูหนาวแล้วจะมีอุณหภูมิที่หนาวเย็น มีประชาชนจำนวนมากที่ต้องทนสู้กับภัยหนาว




















บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ ไทยเบฟ เล็งเห็นถึงความเดือดร้อน พร้อมส่งต่อสังคมแห่ง การ “ให้” ที่ยั่งยืน ด้วยการประเดิมพื้นที่แรกเพื่อส่งมอบ “ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก” ให้กับผู้ประสบภัยหนาวและที่ได้รับความเดือดร้อน

 นายสุรพล เศวตเศรนี รองประธาน กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้แทน บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ พร้อมเครือข่ายพันธมิตร  เพื่อส่งมอบผ้าห่มโครงการ “ไทยเบฟ...รวมใจต้านภัยหนาว ปีที่ 24”


นอกจากจะส่งมอบไออุ่นให้พี่น้องชาวไทยได้คลายหนาวแล้ว ยังส่งมอบกำลังใจและความช่วยเหลือต่างๆ อาทิ น้ำดื่ม อุปกรณ์กีฬา ขนม นมสด และคอมพิวเตอร์ Notebook สิ่งของที่จำเป็นให้กับ โรงเรียนบ้านดู่อลาง ตำบลนารุ่ง อำเภอศีขรภูมิ


นายสุรพล เศวตเศรนี รองประธานกรรมการ ผู้อำนวยการใหญ่ ผู้แทน บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ และ นาย พิจิตร บุญทัน ผวจ.สุรินทร์ ร่วมส่งมอบผ้าห่ม อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา และเครื่องบริโภคแก่โรงเรียน นักเรียนต่างดีใจ.


ทั้งนี้ มีการส่งมอบผ้าห่มจำนวน 13,000 ผืน แจกจ่ายสู่ 17 อำเภอ ของ จ.สุรินทร์ ที่โรงเรียน บ้านดู่อะราง ตำบลนารุ่ง อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ โดยมีนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ให้เกียรติ รับมอบผ้าห่มจำนวน 13,000 ผืน

 นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ร่วมส่งมอบผ้าห่มให้กับผู้ประสบภัยหนาวและด้วยตนเอง

รวมถึงมอบทุนและสื่อการเรียนการสอนภายใต้ “ให้น้องจากใจไทยเบฟ” พร้อมจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ รพ.รวมแพทย์ยโสธร ตรวจรักษาก้อนนิ่วในไต มดลูก ต่อมลูกหมาก ตลอดจนไขมันพอกตับให้กับผู้ประสบภัยอีกด้วย


นายพิจิตร บุญทัน ผวจ.สุรินทร์ กล่าว ขอขอบคุณไทยเบฟ ร่วมนำผ้าห่มมาช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ประสบภัยหนาว รู้สึกดีใจและขอขอบคุณที่นำสิ่งดีๆ มามอบให้กับชาวสุรินทร์


“ผ้าห่มผืนเขียวรักษ์โลก นำมามอบเป็นการนำเอานวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ เพื่อช่วยกันรักโลก รักสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำขวดพลาสติกที่ไม่ใช้แล้วมาผลิตเป็นผ้าห่ม ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี ผู้ประกอบการได้ช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม นำเอาสิ่งของต่างๆ ที่เหลือใช้มา

รีไซเคิลให้เกิดประโยชน์สูงสุด” นายสุรพล เศวตเศรนี กล่าว


ด้วยเชื่อมั่นในพลังแห่งความร่วมมืออันแข็งแกร่งของทุกภาคส่วนที่พร้อมขับเคลื่อนและขยายเครือข่ายเพื่อสร้างสังคมแห่งการ “ให้” ที่ยั่งยืนต่อไป.













วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

นายอำเภอปราสาทเข้าเยี่ยมครอบครัวแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลหลังจากกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย

 




จังหวัดสุรินทร์ นายอำเภอปราสาท เข้าเยี่ยมครอบครัวแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอล หลังจากกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย

ที่ บ้านเลขที่ 23 บ้านสวายจู หมู่ที่ 16 ตำบลตาเบา อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอปราสาท/นายกกิ่งกาชาดอำเภอปราสาท พร้อมด้วย คณะกิ่งกาชาดอำเภอปราสาท ปลัดอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตาเบา กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล ร่วมเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพเครื่องอุปโภค-บริโภค และมอบเงิน จำนวน 4,000.- บาท ตามโครงการ “อำเภอบำบัดทุกข์ บำรุงสุข แบบบูรณาการอย่างยั่งยืน” ให้แก่ นายศรัญญู ปู่ยืน อายุ 32 ปี ซึ่งเป็นแรงงานไทย ที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล และร้องขอกลับมายังประเทศไทย  หลังการสู้รบ ระหว่างประเทศอิสราเอลกับกลุ่มฮามาล ด้าน 

นายศรัญญู ปู่ยืน กล่าวว่า ตนเอง เป็นคนจังหวัดอุบลราชธานี แต่มาได้ภรรยาที่จังหวัดสุรินทร์ มีบุตรด้วยกัน 1 คน เนื่องจากทางบ้านมีฐานะยากจน เลยได้ตัดสินใจ สมัครไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล ภาคการเกษตร ในสวนอะโวคาโด ซึ่งเดินทางไปเป็นครั้งแรกผ่าน กรมแรงงาน  ที่หมู่บ้านคิวบูตเน็ตบา ห่างจากพื้นเกิดเหตุราว 30 กิโลเมตร ห่างเมืองอัชเคล่อน 12 กิโลเมตร  ตนมีสัญญาทำงาน 2 ปี แต่ทำงานได้ 1 ปี 8 เดือน ก็มาเกิดเหตุการณ์สู้รบกันก่อน ในส่วนที่ตนอยู่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่มีอาการขวัญเสียเพราะได้ยินเสียงและ เห็นกระสุนปืน-ระเบิดยิงข้ามไป-มา จึงได้ขอนายจ้างเดินทางกลับประเทศไทย แต่นายจ้างไม่ยินยอม และไม่จ่ายเงินเดือนทีเหลือให้อีกด้วย 

ทั้งนี้โดยการช่วยเหลือของรัฐบาลไทย ตนจึงได้กลับมาตุภูมิ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา และขอวอนให้รัฐบาลไทย ช่วยติดตามในเรื่องค่าแรงที่นายจ้างไม่ยอมจ่าย และ ช่วยเหลือแรงงานไทยที่ยังตกค้างอีกหลายคนด้วย 

นายชินวัต ทองปรีชา นายอำเภอปราสาท กล่าวว่า ได้พูดคุยกับแรงงานไทยพบว่า ยังมีเพื่อนแรงงานไทยบางส่วน ที่ยังไม่กลับมาจึงได้ขอให้พี่น้องแรงงานไทย ช่วยสื่อสารไปยังเพื่อนๆแรงงานไทยที่ยังอยู่ในอิสราเอล ให้พิจารณากลับมาประเทศก่อนเพื่อความปลอดภัยเป็นลำดับแรก และการเข้ามาเยี่ยมครั้งนี้เพื่อเป็นการปลอบขวัญ และบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น และโดยทางอำเภอจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือแรงงานต่อไป















วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566

พิธีรับมอบเงินขวัญถุงพระราชทานกองทุนแม่แห่งแผ่นดิน เงินขวัญถุงพระราชทาน

 


พิธีการรับมอบเงินขวัญถุง

พระราชทานกองทุนแม่ของแผ่นดิน                                   วันที่ 24 ตุลาคม 2566 เวลา 14 30 น ณ อาคาร โตโยต้า โรงเรียน.ตชด.บ้านชำปะโต นายสมชาย วงศ์จิริยะเกษม นายอำเภอบัวเชด เป็นประธานในพิธี นายราชันย์ ช่วงชัย หัวหน้าพัฒนาชุมชนอำเภอบัวเชด นางวิวัฒนา สาลีงาม เป็นประธานกองทุนแม่ของแผ่นดิน บ้านชำปะโต หมู่ที่ 3 ตำบลอาโพน อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ ได้ดำเนินการจัดพิธีเฉลิมฉลองรับมอบเงินขวัญถุงพระราชทานกองทุนแม่ของแผ่นดิน เป็นหมู่บ้านต้นกล้ากองทุนแม่ของแผ่นดินประจำปี 66 ได้จัดขบวนแห่ มีนางรำจำนวน 20 กว่าคน แห่จากซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้านไปถึงโรงเรียน.ตชด.กลางหมู่บ้าน และนางรำที่ไม่ได้รับเชิญ (คุณยายพา ม่วงละออ) อายุ 91 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 4 บ้านชำปะโต หมู่ที่ 3 ตำบลอาโพนอำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ พอได้ยินเสียงดนตรีก็เข้ามาร่วมรำไปกับขบวนนางรำด้วย                            ตำบลอาโพนได้รับพระราชทานเงินขวัญถุงจำนวน 8,000 บาท ภายใต้แนวความคิดร่วมศรัทธาสืบสานพัฒนา ประชาร่มเย็น เมื่อวันที่ 18 เดือนสิงหาคม 2566 ณ ห้องรอยัลจูบีลี่ บอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี 

จังหวัดนนทบุรี โดยได้รับพระมหากรุณาธิคุณ จากพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสิน มหาวชิราลงกรณพระวชิรเกล้า เจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า สุทิดาพัชร สุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงรับเชิญเสด็จ เป็นองค์ประธาน ในพิธีดังกล่าว และจังหวัดสุรินทร์ ได้จัดพิธีมอบ เงินขวัญถุงพระราชทาน เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 66 ณ ห้องประชุมข้าวหอมมะลิ อาคารอาทิตยาทร คณะเกษตรศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยา เขตสุรินทร์ ซึ่งพระราชทรัพย์ ที่ได้รับพระราชทานนั้น ถือเป็นมงคลสูงสุดเป็นเสมือนพระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในหมู่บ้านและเป็นขวัญกำลังใจสูงสุดของพวงราษฎร ที่จะดำเนินการให้พระราชปณิธานของ ของพระองค์ บรรลุผลนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ของราษฎรบ้านชำปะโต ที่สมเด็จพระนางเจ้า สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ส่งห่วงใย ต่อปัญหายาเสพติด และได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ ให้นำมาใช้ประโยชน์ ในการป้องกันยาเสพติด แบบยั่งยืนตลอดไป















วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2566

วันปิยมหาราช 23 ตุลาคม ของทุกปี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

 





วันปิยมหาราช 23 ต.ค.ของทุกปี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ "พระบาท










สมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้



าอยู่หัว" พระมหากษัตริย์ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทั้งเลิกทาส และทรงนำพาประเทศชาติให้ก้าวสู่ความทันสมัยในด้านสังคม การศึกษา การคมนาคม


วันนี้ 23 ตุลาคม 2566 เวลา 08.00 น. ที่บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 หน้าที่ว่าการอำเภอศีขรภูมิ นายกิตติสัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิ ประธานในพิธีถวายพวงมาลาสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องใน "วันปิยมหาราช" 23 ตุลาคม 2566 โดยมีหน่วยงาน ข้าราชการ  ทหาร ตำรวจ รัฐวิสาหกิจ ผู้บริหาร อบต.กำนันผู้ใหญ่บ้าน พ่อค้าและประชาชน เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขแก่ปวงชนชาวไทยตลอดมาอำเภอศีขรภูมิได้จัดพิธีวางพวงมาลาน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณพระองค์ โดยในรัชสมัยของพระองค์ เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในบ้านเมืองของเราที่สร้างความเจริญก้าวหน้าให้ทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ สำหรับพระราชกรณียกิจสำคัญที่นับว่าเป็นการปฏิรูปประเทศครั้งยิ่งใหญ่ คือ การเลิกทาสอย่างค่อยเป็นค่อยไป ปราศจากการเสียเลือดเนื้อ หรือการต่อต้านที่รุนแรง โดยอาศัยมาตรการทางกฎหมาย และด้วยพระปรีชาสามารถของพระองค์ จนประสบความสำเร็จได้