เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5ธันวาคม 2567

เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567

 

        นายพิศา เค้ากล้า นายอำเภอศีขรภูมิ เป็นประธานในพิธีการจัดกิจกรรมเนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 ณ หอประชุมอำเภอศีขรภูมิ  จังหวัดสุรินทร์

 กิจกรรมประกอบด้วย

พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร เพื่อถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

   พิธีวางพานพุ่มดอกไม้และถวายบังคม เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ

           กิจกรรมในครั้งนี้เป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วนเพื่อรำลึกถึงพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของในหลวงรัชกาลที่ 9 ผู้ทรงอุทิศพระองค์เพื่อพสกนิกรไทย อีกทั้งยังสะท้อนถึงความสามัคคีและความร่วมมือของชาวอำเภอบ้านผือที่พร้อมใจกันแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

          โดยมี  สมาชิกกิ่งกาชาดอำเภออำเภอศีขรภูมิ หัวหน้าส่วนราชการ โรงพยาบาล หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ทุกแห่ง, ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  พร้อมคณะผู้บริหาร  สมาชิกสภา ข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง  ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู ในเขตพื้นที่อำเภอศีขรภูมิ ปลัดอำเภอ, เจ้าหน้าที่ปกครอง, พนักงานราชการ, ลูกจ้าง และสมาชิก อส.อำเภอศีขรภูมิ ในสังกัดที่ทำการปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้าน ฯลฯ, ประชาชนจิตอาสา ร่วมพิธีฯอย่างพร้อมเพรียง

มณฑลทหารบกที่ 25 จัดพิธีวางพานพุ่มและพิธีถวายบังคมเนื่องในวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง ร.9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ วันที่ 5 ธันวาคม 2567

 

มณฑลทหารบกที่ 25 จัดพิธีวางพานพุ่ม และพิธีถวายบังคม เนื่องในวันคล้ายเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง ร.9 วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติวันที่ 5 ธันวาคม 2567 พร้อมร่วมกันปลูกปอเทือง เนื่องในวันดินโลก

  ณ สโมสรค่ายวีรวัฒน์โยธิน มณฑลทหารบกที่ 25 พลตรีชัยนคร กิจคณะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่ม และพิธีถวายบังคม เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2567 โดยมี ข้าราชการกำลังพล จาก โรงพยาบาลค่ายวีรโยธิน หน่วยฝึกนักศึกษาวิชาทหาร มณฑลทหารบกที่ 25 สัสดีจังหวัดสุรินทร์ ร.23 พัน 3 สำนักงานสงเคราะห์

ทหารผ่านศึกเขตสุรินทร์ สมาคมแม่บ้านทหารบก สาขามณฑลทหารบกที่ 25 เข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แห่งองค์พระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช พระบรมราชชนก ที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยนานัปการ 

จากนั้น พลตรีชัยนคร กิจคณะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 เป็นประธาน ปลูกปอเทือง เหลืองอร่าม 5 ธันวาคม เนื่องในวันดินโลก ณ โครงการทหารพันธ์ดี มณฑลทหารบกที่ 25  โดยมี คุณสายธาร กิจคณะ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขา มณฑลทหารบกที่ 25 และจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ, สำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ สำนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรจังหวัดสุรินทร์ สถานีพัฒนาที่ดินสุรินทร์ ผู้ใหญ่บ้านหนองโตงพัฒนา ข้าราชการกำลัง-พลจิตอาสาฯ โรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธิน เข้าร่วมหว่านเมล็ดปอเทืองจำนวนทั้งหมด 3 แปลง เนื่องด้วย ในวันที่ 5 ธันวาคม ของทุกปี เป็นวันดินโลก และตรงกับวันคล้ายวันพระราชสมภพของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ซึ่งพระองค์ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเกี่ยวกับการพัฒนาดิน ทรงศึกษาค้นคว้าวิธีการจัดการดินและแก้ปัญหาทรัพยากรดินมามากกว่า 70 ปี จนปรากฏผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์อย่างกว้างขวาง ทั้งในประเทศและนานาชาติ และเพื่อน้อมรำลึกถึงพระองค์ท่าน จึงได้กำหนดจัดกิจกรรมปลูกปอเทือง และไถกลบเป็นปุ๋ยพืชสด เพิ่มไนโตรเจนและสารอาหารอื่นๆ เป็นการปรับปรุงดิน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในพระราชดำริของพระองค์ท่าน 

สุรินทร์ ชาวบ้านใช้เวลาว่างหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จหันมาปลูก ดอกดาวเรือง ขายสร้างรายได้งาม

 ##สุรินทร์ - ชาวบ้านใช้เวลาว่างหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ปลูก "ดอกดาวเรือง" 70 วันเก็บดอกได้ สร้างรายได้งาม##

ที่บ้านตราด ตำบลคอโค อำภอเมือง จังหวัดสุรินทร์  นางดี เกษตรกรผู้ปลูกดอกดาวเรือง ในพื้นที่ กล่าวว่า ตนได้ใช้เวลาหลังว่างเว้นจากช่วงเก็บเกี่ยวทำนา หันมาปลูกดอกดาวเรืองส่งขายตลาด จนสามารถสร้างราย ได้เงินหมุนเวียนให้กับครอบครัว เป็นอย่างดี เนื่องจากดอกดาวเรืองยังคงเป็นดอกไม้มงคลสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง ผู้คนจึงนิยมนำบรรจุกระถางประดับตกแต่งตามสำนักงาน อาคาร บ้านเรือน เพื่อความสวยงาม และความเจริญรุ่งเรือง ทำให้ตลาดดาวเรืองยังคงขายดีเป็นอันดับหนึ่ง  โดยมีพ่อค้า แม่ค้าคนกลาง รับซื้อไม่อั้น 

     อีกทั้งช่วงนี้มีสภาพอากาศหนาวเย็น ซึ่งส่งผลดีต่อผลผลิตการเกษตร รวมถึงดอกดาวเรือง ให้ผลิตออกดอกจำนวนมาก และมีดอกใหญ่ มีความสวยงาม

โดยปัจจุบันสามารถจพหน่ายได้ดอกล่ะ 50 สต. ถึง 75 สต.ต่อดอก  สร้างรายได้เป็นหมื่นต่อเดือน##

ตม.สุรินทร์ เด้งรับนโยบายสนธิกำลังตรวจเข้มจับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

 

ตม.จว.สุรินทร์ เด้งรับนโยบาย สนธิกำลัง ตรวจเข้มจับจริง

เเรงงานต่างด้าวผิดกฏหมาย!!!!!!!!

    ตามนโยบายผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สืบสวนปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 20.30 น. พ.ต.อ.ธนวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผกก.ตม.จว.สุรินทร์, พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก รอง ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์, สำนักงานจัดหางานจังหวัดสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้ตรวจพบ นายอัดตาชัย ไม่มีนามสกุล อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมาร์ (ทราบภายหลัง) กำลังยืนอยู่ข้างๆรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายโรตีให้แก่ลูกค้าที่บริเวณริมถนนด้านหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ภายในปั้ม ปตท.ข้างห้างโรบินสันสุรินทร์ ถ.สุรินทร์-ศึขรภูมิ ต.สลักได อ.เมือง จว.สุรินทร์ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจเอกสารประจำตัวและเอกสารเดินทาง นายอัดตาไช ฯ แจ้งว่าตนมีภูมิลำเนาที่จังหวัดมะละแหม่ง ประเทศเมียนมาร์ เมื่อปีที่แล้วตนลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งในแต่ละวันจะขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเร่ขายโรตีโดยมีรายได้วันละ 700 บาท  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต,เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน,ขับขี่รถ(จักรยานยนต์)โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่”ควบคุมตัวพร้อมนำของกลางนำส่ง พงส.สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวในจังหวัดสุรินทร์ กรุณาแจ้งมายัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ เลขที่ 919 หมู่ที่17 ตำบลกาบเชิง อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ 32110 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 044559127 หรือที่สายด่วน 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

ตม.สุรินทร์ รวบผู้ต้องหาตามหมายจับตาด่าน

 

ตม.จว.สุรินทร์ รวบผู้ต้องหาตามหมายจับคาด่าน..!!!!!!!!

    ตามนโยบายผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ พ.ต.อ.ธนวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผกก.ตม.จว.สุรินทร์,พ.ต.ท.ยศธน กระบิน, พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก รอง ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ เด้งรับนโยบาย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเข้มการเดินทางเข้า-ออก นอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2567 เวลาประมาณ 15.30 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สุรินทร์ กำลังปฏิบัติหน้าที่ได้มี น.ส.จิรนันท์ฯ สัญชาติ ไทย เดินทางมาที่ช่องตรวจหนังสือเดินทางขาออกไปนอกราชอาณาจักร จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน  อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์ เพื่อขออนุญาตเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร จากการตรวจสอบด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ของ สตม.(BIOMETRICS) ปรากฏข้อมูลว่า น.ส.จิรนันท์ฯ ผู้ต้องหา เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 10/2566  ลง 11 ม.ค. 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” จึงได้แจ้งให้ น.ส.จิรนันท์ฯ ผู้ต้องหาทราบ และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียด ได้รับการยืนยันว่าผู้ต้องหานี้ยังไม่ถูกจับกุมตามหมายจับนี้และยังต้องการตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดี จากนั้นจึงได้แจ้งให้ น.ส.จิรนันท์ฯ ผู้ต้องหา ทราบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าว โดยแสดงสำเนาหมายจับให้ดูและอ่านหมายจับให้ฟัง โดย น.ส.จิรนันท์ฯ ผู้ต้องหา รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริงและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ทราบว่าต้องถูกจับกุมตามหมายจับนี้และได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ทราบแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมส่ง พงส.สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวในจังหวัดสุรินทร์ กรุณาแจ้งมายัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ เลขที่ 919 หมู่ที่17 ตำบลกาบเชิง อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ 32110 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 044559127 หรือที่สายด่วน 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ตรวจเยี่ยมภูมิประเทศและให้กำลังใจกำลังพลกองทัพบกที่ปฏิบัติงานหน้าที่รักษาอธิปไตยในพื้นที่ชายแดน ไทย- กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์

 

##พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ตรวจเยี่ยมและตรวจภูมิประเทศ พร้อมให้กำลังใจกำลังพลกองทัพบก ที่ปฏิบัติงานหน้าที่รักษาอธิปไตยในพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ ##

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางโดย เฮลิคอปเตอร์กองทัพบกไปยัง สนามอฮ. ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน  อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ จากนั้นคณะ เดินทางโดยรถยนต์ ไปยังจุดตรวจการณ์ช่องปลดต่าง ตำบลกาบเชิง อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจภูมิประเทศ และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลกองทัพบก ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ ตลอดจนรับทราบปัญหา ข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะ รวมถึงมอบนโนบายข้อกำชับการปฏิบัติงานแก่กำลังพลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ให้การต้อนรับ โดยมี พันเอกภาคภูมิ นภากาศ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่สอง กองกำลังสุรนารี และพันเอกกิตติศักดิ์ บังพิมาย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี ได้กล่าวบรรยายสรุป ถึงผลการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก  ได้มอบเครื่องอุปโภค- บริโภค แด่ตัวแทนหน่วยต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในครั้งนี้

 จากนั้นพลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ ยังได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ร่วมกับกำลังพล อย่างเป็นกันเองอีกด้วย##

จังหวัดสุรินทร์ จัดงาน ISAN SOFT. POWER "ใส่ไทย เฟสติวัล" เทศกาลที่เป็น SOFT POWER ด้านแฟชั่น ผ้าไทยพื้นบ้าน

 

สุรินทร์ จัดงาน ISAN SOFT POWER "ใส่ไทย เฟสติวัลเทศกาลที่เป็น SOFT  POWER ด้านแฟชั่น ผ้าไทยพื้นบ้าน

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 ที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ นายวสันต์ ชิงชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนางพัชรินทร์ สิทธิพรรณโยธา อำนวยการกองส่งเสริมกิจกรรม ฝ่ายกิจกรรม ททท. และนางศรีสุภรณ์ ชมศรีหาราชพร ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสุรินทร์ ได้ร่วมกันเป็นประธานเปิดงาน“ใส่ไทย เฟสติวัล” ISAN SOFT POWER เทศกาลที่เป็น  SOFT POWER  ด้านแฟชั่นให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ถือเป็นการสร้างสีสัน สร้างรายได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และเพื่อผลักดันให้เป็น SOFT POWER  ด้านแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นผ้าไทยพื้นบ้าน ศิลปิน องค์กร หมู่บ้านผ้าไทย ได้พัฒนาส่งเสริม ยกระดับให้หัตถกรรมและแฟชั่นไทยสู่สากล ด้วยการดึงเอา  ISAN SOFT POWER ดนตรี อาหาร ศิลปะ วัฒนธรรม  นำมาผสมผสานเข้ากับสิ่งใหม่ นำเสนอความร่วมสมัยเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าถึงผ่านการจัดงานในรูปแบบ เฟสติวัล

ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ ททท. ในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเกิดการเดินทางเพื่อสร้างประสบการณ์ในการเข้าถึงเรื่องแฟชั่นผ้าไทยในแต่ละท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกัน ก่อให้เกิดการพำนักที่นานวันขึ้น มีการใช้จ่ายในพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยว “5 Must Do in Thailand” ได้แก่ 1.Must See นำเสนอเทศกาล งานประเพณีท้องถิ่นจนถึงกิจกรรมนานาชาติ 2.Must Seek นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม กระตุ้นให้เกิดการเดินทาง 3.Must Buy สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ และชุมชน ด้วยสินค้าท้องถิ่น 4.Must Taste ต่อยอดอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ จาก Local สู่ Royal  5.Must Try กิจกรรมท่องเที่ยวที่กระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่าย

โดยกิจกรรมภายในงาน แบ่งออกเป็น  4 โซน ประกอบด้วย  โซนที่ 1  Sai Thai Fashion Village  เป็นโซนเวิร์คช็อป และ พูดคุยในรูปแบบหมู่บ้านทอผ้า เรียนรู้แฟชั่นไทยและวัฒนธรรมอีสานอย่างสร้างสรรค์ และการจำลองวิถีชุมชนในพื้นถิ่น โซนที่ 2  Sai  Thai  Art จุดถ่ายภาพ Art Installation รูปลักษณ์แปลกใหม่ สะดุดตา ใส่ความเท่ห์ให้ผ้าไทยกับการนำผ้าไทยมาทำงานอาร์ต สร้างสรรค์งานศิลปะที่สวยงามในแต่ละวัน ยังมีการแสดง แสง เสียง วันละ 3 รอบ เพิ่มบรรยากาศ ให้เต็มอิ่มมากขึ้นในงาน โซนที่ 3 Sai Thai  Lifestyle Market  โซนจัดจำหน่าย อาหาร เครื่องดื่ม ของที่ระลึก จากชุมชนและผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสินค้าพื้นเมือง  มากกว่า 50 บูธ และโซนที่ 4 Sai Thai Fun Stage  โซนเวทีหลัก ได้จัดให้มีการแสดงศิลปะ วัฒนธรรมในท้องถิ่น รวมถึง มีดาราศิลปินที่มีชื่อเสียง มาร่วมสร้างสีสันและความสนุกตลอดระยะเวลา 4 วันด้วย อาทิ เช่น  วงเก็ตสึโนว่า, ไผ่ พงศธร, ซีซั่น ไฟท์ และ ไอซ์ ศรัณยู เป็นต้น และสำหรับพิธีเปิดในวันนี้ก็ได้จัดให้มีไฮไลท์ การเดินแฟชั่นโชว์ จากดีไซน์เนอร์ชื่อดังในจังหวัดสุรินทร์  มาให้ได้ชมกันด้วย 

สำหรับงาน “ใส่ไทย เฟสติวัล”  ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่กระตุ้นการเดินทาง และการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวที่จะได้สัมผัสและเข้าถึงแฟชั่นผ้าไทยที่มีเอกลักษณ์ได้อย่างชัดเจน ว่า “5 Must Do in Thailand” จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอเชิญชวนทุกคนใส่ชุดไทย เที่ยว แชะ ชม กิน  ช็อป มันส์ๆ  ร่วมผลักดันให้เป็น SOFT POWER  ด้านแฟชั่นให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี และยังมีกิจกรรมให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ร่วมสนุกกับกิจกรรม ใส่ชุดผ้าไทยร่วมงานใส่ไทย เปิดวาร์ป ติด #SaiThaiFestival โพสต์ Facebook โชว์ภาพขึ้นจอยักษ์ในงาน ไม่พอ ยังรับสิทธิ์ฟินฟรี รับคูปองส่วนลดแทนเงินสด สำหรับใช้กับร้านค้าภายในงาน  เปิดโอกาสให้ทุกท่านทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี  ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น  โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.30 น. ระหว่างวันที่ 27-30 พฤศจิกายน 2567 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์