srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันพฤหัสบดีที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2567

#ระเวียงเกมส์ ประจำปี 2567#








 ## พิธีเปิดการแข่งขันกีฬา --กรีฑา นักเรียนภายในโรงเรียนบ้านระเวียง  "ระเวียงเกมส์" ประจำปี2567

โดยมีนายประคอง ศักดิ์โอษฐ์งาม   อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านระเวียงประธานเปิดงานกีฬา นายสุพจน์ ไหมทอง คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬา--กรีฑานักเรียนบ้านระเวียง คณะกรรมการศึกษา  คณะครู  นักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาตลอดจนคณะกรรมการจัดการแข่งขัน นักกีฬาและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ร่วมงานเปิดกีฬา-กรีฑานักเรียนโรงเรียนบ้านระเวียง 

   โรงเรียนบ้านระเบียงได้ดำเนินการจัดการแข่งขันกีฬา-กรีฑานักเรียนภายในโรงเรียนบ้านระเบียงเป็นประจำทุกๆปี

โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานดังนี้

1 เพื่อสร้างเสริมสนับสนุนให้นักเรียนได้เล่นกีฬาเพื่อสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรง

2  เพื่อสร้างความสามัคคีให้เกิดขึ้นในระหว่างคณะครู - นักเรียน และชุมชน

3  เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของหลักสูตร

4 เพื่อส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และห่างไกลยาเสพติด

กีฬาที่ทำการแข่งขันมีดังนี้  ฟุตบอล ฟุตซอล  วอลเลย์บอล เซปักตะกร้อ  เปตอง กรีฑาประเภทลู่ พร้อมทั้งกีฬาพื้นบ้าน และในปีนี้ได้ดำเนินจัดการแข่งขันขึ้นในระหว่างวันที่ 30 กันยายน ถึงวันที่ 3 ตุลาคม 2567 เพื่อเป็นเกียรติแก่นักกีฬา เจ้าหน้าที่คณะกรรมการจัดการแข่งขันขอเรียนเชิญท่านประธานเปิดการแข่งขันกีฬา-กรีฑานักเรียนภายในโรงเรียนบ้านระเบียงประจำปี 2567 ต่อไป ##


























วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567

ชาวบ้านดีใจรับเงิน 10,000 บาท เป็นวันที่สองอย่างคึกคักแห่ถอดเงินสดกัน

 





## ชาวบ้านดีใจรับเงิน 10,000 บาทเป็นวันที่สอง ต่างจังหวัดคึกคัก แห่ถอนเงินสด

26 ก.ย. 2024 เวลา 06.30 น.

ชาวบ้านดีใจรับเงิน 10,000 บาทวันที่สอง ต่างจังหวัดคึกคัก แห่ถอนเงินสดและกดเงินจากตู้เอทีเอ็มกันตั้งเช้ามืด


พลันที่ประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนพิการที่ได้รับเงิน 10,000 บาท จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทำให้เห็นความคึกคักในการไปเบิกถอนเงินสดที่ธนาคาร และตู้เอทีเอ็มของธนาคาร

“เงิน 10,000 บาท” สำหรับแต่ละคนมีคุณค่าและความหมายที่แตกต่างกันไป ตามฐานะ ความจำเป็นของชีวิต 


วันที่ 26 กันยายน 2567 เป็นวันที่สองประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงิน 10,000 บาท ไปจับจ่ายใช้สอยโดยไม่มีเงื่อนไข

 กดเงินสด 10,000 บาท ต่อลมหายใจ ใช้จ่ายจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพ

ผู้ได้รับสิทธิ 10,000 บาท ทยอยถอนเงินสดทั้งจำนวนทันที ขณะที่ ธ.ก.ส. เพิ่มสำรองเงินสด ทั้งสาขา และเอทีเอ็มทั่วประเทศ รองรับความต้องการประชาชน หลังประเดิมโอนวันแรก 1.26 ล้านบัญชีราบรื่น

 บรรยากาศธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยสาขาอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ผู้มีสิทธิได้รับเงิน 10,000 บาท ทยอยเดินทางเข้าถอนเงินสดอย่างคึกคัก

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบางส่วน บอกว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับเงิน 10,000 บาท เช่นเดียวกับ สมาชิกในครอบครัวอีกหลายคนก็ได้รับเงินเช่นเดียวกัน แต่คงไม่ได้นำมารวมกันเพื่อทำทุนแต่อย่างใด เนื่องจากสมาชิกครอบครัวแต่ละคนก็มีภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินของแต่ละคน

 และขอบคุณรัฐบาลที่ดำเนินนโยบายดังกล่าว

ประชาชนดีใจหลังรอคอยเงินหมื่นมานาน

ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วย 1, 2 ,3  ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับเงิน 10,000 บาท เป็นวันที่สอง ต่างพากันมาปรับสมุดบัญชีธนาคาร เพื่อตรวจเช็กยอดเงิน บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะรอวันนี้มานานกว่าจะได้รับเงิน 10,000 บาท

ขณะที่ หน้าตู้เอทีเอ็ม หน้าธนาคาร ธกส.สาขาศีขรภูมิ คึกคักไปด้วยประชาชนกลุ่มเปราะบางผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดินทางมาถอนเงิน 10,000 บาทกันตั้งแต่เช้ามืดเลยที่เดียว

ชาวบ้านที่ได้รับโอนเงินบอกว่า ดีใจที่ได้รับเงินในวันนี้จะนำเงินไปใช้จ่ายซื้อของใช้ส่วนตัว และเครื่องอุปโภคบริโภคเก็บไว้ภายในบ้าน และเป็นค่าเทอม ค่าใช้จ่ายในการเรียนหนังสือให้กับลูก บางส่วนจะนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้สิน

ส่วนธนาคารกรุงไทย สาขาอำเภอศีขรภูมื มีประชาชนมารอเบิกเงิน 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายในครอบครัว บางคนจะแบ่งเงินบางส่วนไปใช้หนี้ ขณะที่ผู้สูงอายุจะเก็บเงินเอาไว้สำหรับเอาไว้ใช้จ่ายเป็นค่าเดินทางไปหาหมอเนื่องจากตัวเองอายุมากแล้ว

บางคนก็มารอปรับสมุดและกดเงิน 10,000 บาท ส่วนใหญ่ที่ได้รับเงิน บอกว่าจะนำไปซื้อของใช้ที่จำเป็น เช่น โทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ติดต่อกับลูกที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดที่เหลือก็จะเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัว

ผู้สูงอายุบางคนที่ยังไม่มีเงินเข้าบัญชีทั้งที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิไว้แล้วได้เดินทางมาติดต่อที่ธนาคารเพื่อสอบถามว่าเกิดจากความผิดพลาดในการลงทะเบียนหรือไม่##












 



วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2567

ตม.สุรินทร์ รับนโยบาย ไม่ปล่อยผ่านตรวจละเอียดยิบ รวบคาด่านตรวจจับสาวใหญ่กัมพูชาตามหมายจับ2 คดี

    








 ตม.จว.สุรินทร์ เด้งรับนโยบาย “ไม่ปล่อยผ่านตรวจละเอียดยิบ!! รวบคาด่านตรวจ จับสาวใหญ่กัมพูชาหมายจับ 2 คดี!!!

   ตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และ พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์  ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง4 ให้ตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัดตรวจสอบคนต่างด้าวที่เดินทางเข้าและออกราชอาณาจักรอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะต่างด้าวที่มีหมายจับ เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมามีการจับกุมคนต่างด้าวที่กระทำความผิดมากขึ้น โดยมุ่งเน้นเพื่อเป็นการกวาดล้างอาชญากรรมตามนโยบายของรัฐบาล 

พ.ต.อ.ธนวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ , พ.ต.ท.ยศธน กระบิน และ พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์  ได้ขานรับนโยบาย สั่งการเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกาบเชิง ภตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ , เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ศปรฟ.บช.ก.) ชุดปฏิบัติการที่2 (สายตะวันออกเฉียงเหนือ) , เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลสมเด็จเจ้าพระยา กองบังคับการตำรวจนครบาล8   โดยเมื่อวันที่ 14 ก.ย.2567 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ประจำจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัด สามารถจับกุม นางโอด้า เฮง (MRS.ODA HENG) อายุ 50 ปี สัญชาติกัมพูชา ขณะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรทางจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม(ขาเข้า) โดยใช้หนังสือเดินทางประเทศกัมพูชา เลขหนังสือเดินทาง N01825736 เพื่อใช้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบหนังสือเดินทางอย่างละเอียดและตรวจสอบผ่านระบบ Biometric พบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับศาลแขวงธนบุรีที่ จ.288/2565 ออกเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2565 และหมายจับศาลแขวงธนบุรี ที่ 327/2565 ออกเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2565  จึงควบคุมตัวไว้ จากการสอบสวน นางโอด้าฯ  ให้การยอมรับว่า เป็นบุคคลตามหมายจับทั้งสองจริง และไม่เคยถูกจับกุมตามหมายนี้มาก่อน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้นางโอด้าฯทราบว่า เป็นบุคคลตามหมายจับศาลแขวงธนบุรีที่ จ.288/2565 ออกเมื่อวันที่ 15 ก.ย.2565 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ ซึ่งประชาชนทั่วไปไม่สามารเข้าถึงได้ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง” เป็นบุคคลตามหมายจับศาลแขวงธนบุรีที่ 327/2565 ออกเมื่อวันที่ 27 ต.ค.2565  ในข้อหาเดียวกัน พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลสมเด็จเจ้าพระยาดำเนินคดีตามกฎหมาย 

หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวในจังหวัดสุรินทร์ กรุณาแจ้งมายัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ เลขที่ 919 หมู่ที่17 ตำบลกาบเชิง อำเภอเกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ 32110 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 044559127 หรือที่สายด่วน 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง


วันเสาร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2567

จังหวัดสุรินทร์ร้านค้าขายของฝากชื่อดังร่วมส่งอาหารแห้งที่ขึ้นชื่อกว่า1300 ห่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย

 








จังหวัดสุรินทร์ ร้านขายของฝากชื่อดังร่วมส่งอาหารแห้งขึ้นชื่อเมืองสุรินทร์ กว่า 1,300 ห่อ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย 

    วันที่ 15 กันยายน 2567 ที่ร้านกุนเชียงห้าดาว อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ร้านขายของฝากชื่อดัง และใหญ่ที่สุดในจังหวัดสุรินทร์ ระดมพนักงานกว่า 20 ชีวิต เร่งผลิต และบรรจุกากหมูแก้ว กุนเชียงทอดสำเร็จ ขนม น้ำพริกกระปุกรสชาดต่างๆ รวมแล้วกว่า 1,300 กว่าห่อ โดยส่งมอบต่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่จะลงไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ในจังหวัดเชียงราย โดยผลิตภัณฑ์ อาหาร ดังกล่าวจะถูกไปยังศูนย์พักพิงในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับผู้ที่ยังคงรอความช่วยเหลือ                                                                     

                                                                                                                       นางสาวภาวิดา ประสิทธิเม เจ้าของร้านกุนเชียงห้าดาว  อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ กล่าวว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงราย ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อที่อยู่อาศัย และพื้นที่เกษตรกรรม ถือเป็นหนึ่งในสถานการณ์ที่รุนแรงที่สุด ทำให้ประชาชน หลายครัวเรือนต้องอพยพไปยังศูนย์พักพิง ทางร้านจึงขอเป็นตัวแทนความห่วงใยชาวสุรินทร์ ขอส่งมอบอาหารแห้ง เพื่อสนับสนุนผู้ประสบภัยในพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่กำลังเผชิญวิกฤตอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้   ยังขอเป็นกำลังใจให้แก่พี่น้องชาวเชียงราย ให้เข้มแข็ง ซึ่งทางร้านพร้อมที่จะร่วมมือกับภาครัฐและภาคเอกชนอื่นๆ ในการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หากมีการร้องขอเพื่อให้ผู้ประสบภัยมีอาหาร จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น