เป็นบล็อกสื่อสารถึง ข่าวสาร วัฒนธรรม ประเพณีท้องถิ่น การกีฬา สร้างสรรสิ่งดีๆให้สังคม
srikho tv
ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี
วันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2565
ทำความดีให้คนเห็น
”ทำความดีให้คนเห็น”
พลตรีสาธิต เกิดโภค ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 25 ร่วมกับชมรมนักหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์จังหวัดสุรินทร์ นำโดยนายชนะชล มูลจันทร์ ประธานชมรมนักหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์ จัดกิจกรรม”ทำความดี ให้คนเห็น”เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 แก่ผู้สูงอายุ ผู้ยากไร้ และผู้ประสบปัญหาทางสายตา ในงานมีการแจกแว่นตา แก่ผู้สูงอายุจำนวน 100 ราย และแจกน้ำมันพืช ข้าวสารอาหารแห้ง ในงานยังมีทีมแพทย์ -พยาบาล ชุดออกบริการเคลื่อนที่เพื่อตรวจสุขภาพฟรีแก่ประชาชนและผู้สูงอายุ จากโรงพยาบาลค่ายวีรวัฒน์โยธินมาบริการประชาชนด้วย ชมรมช่างตัดผมจังหวัดสุรินทร์ มาบริการตัดผมฟรี ประชาชนผู้สูงอายุเข้ารับบริการตรวจสุขภาพ และรับยาฟรี ณ บ้านกระทม ต.บัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ในงานนี้ยังมีวงดนตรีจาก มทบ.25 สุรินทร์ มาขับกล่อมร้องเพลงให้กับพี่น้องประชาชนได้รับความสนุกสนานไปด้วย
อำเภอศึขรภูมิทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลในหลวงรัชกาลที่9
อำเภอศีขรภูมิ ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลในหลวงรัชกาลที่ 9
นายกิตติ สัตย์ซื่อ นายอำเภอศีขรภูมิเป็นประธานในพิธีบำเพ็ญกุศล ทำบุญตักบาตร และกิจกรรมน้อมรำลึก เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ต.ค. โดยมีข้าราชการ ประชาชนทุกหมู่เหล่า เข้าร่วมในพิธี
วันที่ 13 ต.ค.65 เวลา 07.30 น.ที่บริเวณที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอศีขรภูมิ นาย นายกิตติสัตย์ซื่อ เป็นประธานในการประกอบพิธี ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยนิมนต์ พระสงฆ์จำนวน 89 รูป ประกอบพิธีบำเพ็ญกุศล ทางศาสนา เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และแสดงความจงรักภักดีพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้สร้างคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างอเนกอนันต์ และเพื่อให้ศาสนิกชนได้ร่วมสืบทอดพระพุทธศาสนา ปฏิบัติศาสนกิจนำหลักธรรมทางศาสนาไปสู่การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เสริมสร้างความรัก ความสามัคคีแก่ปวงชนชาวไทยโดยมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจ
ได้นำข้าราชการ ทุกหมู่เหล่า พร้อมด้วยประชาชน ประกอบพิธี ทำบุญตักบาตร ด้วยข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เครื่องอุปโภคบริโภค แด่พระสงฆ์ จำนวน 89 รูป เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลน้อมรำลึกถึงพระพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม
จากนั้น เวลา 9.30น.นำข้าราชการทุกหมู่เหล่ารัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและประชาชน ร่วมพิธีวางพวงมาลาน้อมรำลึก ในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต 13 ตุลาคม
วันอังคารที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2565
มูลนิธิไต่ฮงกงสุรินทร์มอบถุงยังชีพ ให้กับราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย
มูลนิธิไต่ฮงกง สุรินทร์ มอบถุงยังชีพช่วยเหลือ ราษฎร ที่ได้รับผลกระทบจาก อุทกภัย พายุนูโร อำเภอศีขรภูมิ และอำเภอสำโรงทาบ วันที่ 11 ต.ค.2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มูลนิธิไต่ฮงกงสุรินทร์ นำโดยนายไกรเทพ เรืองผลวิมิมจ์ ประธานมูลนิธิไต่ ฮงกง พร้อมด้วยรองประธานและกรรมการมูลนิธิร่วมกันมอบถุงยังชีพเพื่อช่วยเหลือ ราษฎรบ้านตะแบก ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยพายุนูโร และมอบถุงยังชีพน้ำดื่ม ข้าวสาร น้ำมันพืช น้ำปลา อาหารกล่อง บะหมี่ สำเร็จรูป และยารักษาโรค ให้กับผู้ประสบอุทกภัยในเขต ตำบลประดู่ อำเภอสำโรงทาบ
โดยมีนายประเดิม เทพวงษ์ นายก อบต.ประดู่รับมอบสิ่งของจากมูลนิธิ และ นายนฤริต ซ่อมแก้ว ผู้ใหญ่บ้านตะแบก ต.จารพัต อ.ศีขรภูมิ
รับ มอบเครื่อง อุปโภคบริโภค เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้
วันจันทร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2565
ตักบาตรเทโวโรหณะ
ทำบุญ"ตักบาตรเทโว โรหณะ " ในวันออกพรรษา
วันนี้ 11 ต.ค.2565 เวลา07.00น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศพิธีทำบุญตักบาตรเทโวโรหณะ เนื่องในวันออกพรรษา ประจำปี 2565 ได้จัดทำบุญตักบาตรเทโว พระสงฆ์ สามเณร รวม 80 รูป โดยมีพุทธศาสนิกชนคนในชุมชนเทศบาลตำบลศีขรภูมิร่วมพิธี เป็นจำนวนมาก ประชาชน คนในชุมชนตลาดศีขรภูมิเดินทางมาร่วมกัน ทำบุญตักบาตร เทโวโรหณะกันอย่างหนาแน่น ต่างพาครอบครัวมาร่วมทำบุญตักบาตร ได้นำข้าวสารอาหารแห้งร่วมตักบาตรเทโวกันตั้งแต่เช้า
ซึ่งมี นายอนุชา วัชระศีขร นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลศีขรภูมินายนนทวัฒน์ ประภาศัย ปลัดอาวุโสอำเภอศีขรภูมิ เป็นประธานในพิธีตักบาตรเทโวโดยมีพระอาจารย์มหาเจริญสุข คุณวีโร เจ้าอาวาสวัดศรีวิหารเจริญ เป็นประธานสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ผู้มาร่วมพิธี
ประเพณีตักบาตรเทโว ถือว่าเป็นการทำบุญตักบาตรในวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงเทวโลกใน วันมหาปวารณา คือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 หรือ วันออกพรรษา คำว่า เทโว เรียกมาจากคำว่า เทโวโรหณะ (เทว+โอโรหณ) ซึ่งแปลว่า การลงจากเทวโลกเพื่อเป็นการระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์เสด็จ หลังจากที่พระองค์แสดงพระอภิธรรมโปรดพระมารดา ทรงจำพรรษาที่นั้นเป็นเวลา 3 เดือน และกลับจากเทวโลกพอออกพรรษา พระพุทธเจ้าก็จะเสด็จลงจากเทวโลกกลับมายังโลกมนุษย์ โดยเสด็จลงที่เมืองสังกัสส์ ใกล้เมืองพาราณสี ชาวบ้านชาวเมืองทราบข่าวก็พากันไปทำบุญตักบาตรพระพุทธองค์ที่นั่น และเป็นการรับเสด็จพระพุทธองค์ด้วยการตักบาตรรับเสด็จพระพุทธเจ้าจึงได้ปฏิบัติสืบเนื่องต่อกันมาเป็นประเพณีจนถึงเมืองไทย จึงเรียกประเพณีนี้ว่า การตักบาตรเทโวโรหณะ นิยมสั้นๆ ว่า การตักบาตรเทโว มาจนถึงปัจจุบันพิธีปฏิบัติในการตักบาตรเทโว
ขบวนพระสงฆ์ก็จะเดินตามเรียงเป็นแถวงดงาม พุทธศาสนิกชนก็จะนั่งเรียงเป็นแถว หรือยืน การตักบาตรเทโวชาวบ้านได้จัดเตรียมอาหารในตอนเช้า อาหารที่เตรียมเพื่อตักบาตรเป็นพิเศษในวันนี้ คือ ข้าวสารอาหารแห้ง นมกล่อง น้ำดื่ม วันที่11ตุลาคม 65 พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลกชั้นดาวดึงส์ เพื่อให้ประชาชนได้ตักบาตร ประชาชนจะนั่งหรือยืนรอบลานอนุเสาวรีย์หลวงชัยสุริยง ทางลงจากสถานีรภไฟ ให้พระสงฆ์เดินเข้าแถวเรียงลำดับรับบาตรตรงกลาง โดยมีมัคทายก เดินอัญเชิญพระพุทธรูปนำหน้าแถวพระสงฆ์หลังจากตักบาตรแล้ว มีการอาราธนาศีล สมาทานศีล และรักษาศีลฟังธรรมและทำสมาธิตามโอกาส เพื่อทำให้จิตใจบริสุทธิ์ผ่องใสแผ่เมตตา และกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติ ผู้ล่วงลับ และสรรพสัตว์
เทศบาลตำบลสังขะทำพิธีกวนข้าวมธุปายา
เทศบาลตําบลสังขะ สืบสานประเพณี #กวนข้าวมธุปายา#
1 ปี มีเพียงแค่ครั้งเดียว ชาวบ้านแห่ร่วมงานคับคั่ง
วันที่ 10 ตุลาคม 2565 นางกิ่งกาญจน์ พัวไพฑูรย์ นายกเทศมนตรีตำบลสังขะ คณะผู้บริหาร และสมาชิกสภาเทศบาล ร่วมกับชุมชนในเขตเทศบาลตำบลสังขะ จัดประเพณีกวนข้าวทิพย์ ประจำปี 2565 ณ วัดโพธาราม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เป็นการสืบสานประเพณีวัฒนธรรม ซึ่งชาวบ้านจะทำในเทศกาลออกพรรษา ถวายพระสงฆ์เพื่อเป็นการสักการบูชา ซึ่งถือเป็นสิริมงคล การกวนข้าวทิพย์ต้องอาศัยความสามัคคีจากชาวบ้านจึงจะสำเร็จลงได้
ตามประเพณีจะให้เด็กสาวพรหมจรรย์กวนกระทะในช่วงแรกก่อน หลังจากข้าวทิพย์เสร็จ ท่านนายกจะนำข้าวทิพย์ไปมอบให้หัวหน้าส่วนราชการเพื่อเป็นสิริมงคล
ทั้งนี้ นางกิ่งกาญจน์ พัวไพฑูรย์ นายกเทศมนตรีตำบลสังขะได้นำข้าวทิพย์ไปมอบให้นายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นางทรงลักษณ์ วรภัย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ นายกิติชัย เกตุวงษา ท้องถิ่นจังหวัดสุรินทร์
ประเพณีกวนข้าวทิพย์ เป็นพระราชพิธีที่กระทำกันในเดือน 10 ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัยและกรุงศรีอยุธยา เป็นราชธานี และได้รับการฟื้นฟูครั้งใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ 1 และมาละเว้นเลิกรา ไปในสมัยรัชกาล ที่ 2 และรัชกาลที่ 3 แล้วมาได้รับการฟื้นฟู อีกครั้งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา แต่ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะจัดกันในเดือน 12 บางแห่งก็เดือนหนึ่ง ซึ่งคงจะถือเอาระยะที่ข้าวกล้า ในท้องนามีรวงขาวเป็นน้ำนม ของแต่ละปี และชาวบ้านก็มีความพร้อมเพรียงกัน
อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ยังคงรักษาประเพณีกวนข้าวทิพย์ ยังคงรักษาประเพณี และมีความเชื่อถือ อย่างมั่นคง เป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งแฝงด้วยจริยธรรมและคติธรรมอยู่มาก ที่สมควรนำมากล่าวถึงคือ ความพร้อมเพรียงของ ชาวบ้านทั้งที่ทำนา และไม่ได้ทำนาถึงเวลาก็มาร่วมจัดทำและ ช่วยเหลือโดยยึดถือ ความสามัคคีเป็นหลัก
ความสำคัญ
พิธีกวนข้าวทิพย์ได้ยึดถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบต่อกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ในหมู่ของชาวพุทธทั่วไป เพื่อระลึกถึงสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและเหตุการณ์ที่นางสุชาดาได้กวนข้าวทิพย์ในวันขึ้น 14 ค่ำ แล้วนำไปถวายพระพุทธเจ้าก่อนที่จะตรัสรู้ 1 วัน โดยถือว่ามีผลานิสงฆ์มาก ด้วยเหตุนี้ชาวพุทธจึงพร้อมใจกันกวนข้าวทิพย์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เทิดทูนพระเกียรติคุณด้วยความกตัญญูกตเวทิตาธรรม
ข้าวทิพย์ หรือเรียกอีกอย่างว่า มธุปายาสนี้เชื่อกันว่า เมื่อทำครบถ้วนตามพิธีแล้ว จะเป็นสิริมงคลแด่ผู้ทำและผู้บริโภค สมควรจะเซ่นสรวงเทพารักษ์ ผู้ที่ได้บริโภคข้าวทิพย์แล้ว จะประสบโชคลาภต่างๆ นานา ปราศจากโรคาพยาธิ ภัยพิบัติ ประสบสิ่งที่เป็นมงคล
พิธีกรรม
พิธีรำบวงสรวงบูชาพระธาตุพนม
พิธีรำบวงสรวงบูชาพระธาตุพนม ในวันออกพรรษา ตามประเพณีโบราณ
วันที่ 10 ตุลาคม 2565
ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาว ไทย และ สปป.ลาว แห่ชื่นชมความอลังการพิธีศักดิ์สิทธิ์โบราณ รำบูชาพระธาตุพนม จากสาวงาม 8 ชนเผ่า สืบทอดกันมา ยาวนานกว่า 35 ปี
บริเวณหน้าวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม การรำบวงสรวงบูชาพระธาตุพนม ตามประเพณีโบราณที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ปี 2530 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาต่อองค์พระธาตุพนม สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุกระดูกส่วนหน้าอกของพระพุทธเจ้า อายุเก่าแก่กว่า 2,500 ปี
พิธีรำบวงสรวงบูชาองค์พระธาตุพนม มีชนเผ่าต่างๆ ของ จ.นครพนม รวม 8 ชนเผ่า มาฟ้อนรำ มีการแสดงทั้งหมด 6 ชุด ได้แก่
1. ชุดรำตำนานพระธาตุพนมและชุดรำชนเผ่านครพนม โดย อ.ธาตุพนม
2. ชุดรำศรีโคตรบูรณ์ โดย อ.ปลาปาก และ อ.ศรีสงคราม
3. ชุดรำผู้ไท โดย อ.เรณูนคร และ อ.บ้านแพง
4. ชุดรำหางนกยูง โดย อ.เมือง และ อ.นาทม
5. ชุดรำไทญ้อ โดย อ.ท่าอุเทน อ.นาหว้า และ อ.โพนสวรรค์
6. ชุดรำขันหมากเบ็ง โดย อ.นาแก และ และวังยาง
นอกจากนี้ยังมีชุดการรำพิเศษเป็นการรวมชุดรำทั้ง 6 ชุด ในเพลงอีสานบ้านเฮา และเปิดโอกาส ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้ร่วมรำถวายต่อองค์พระธาตุพนม เป็นสิริมงคล แก่ประชาชน นักท่องเที่ยว
กิจกรรมนี้ถือเป็นกิจกรรมสำคัญที่จัดขึ้นทุกปีในวันออกพรรษา เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ในพื้นที่ กลับมาคึกคัก หลังโควิดส่งผลกระทบช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อีกทั้งในช่วงเย็นจะมีการจัดประกวดไหลเรือไฟ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม มากกว่า 12 ลำ อีกด้วย
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)