srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันพฤหัสบดีที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

โครงการของดีตำบลกุดหวาย ประจำปี 2568




##พิธีเปิดการอบรม โครงการ “ของดีตำบลกุดหวาย"



ณ องค์การบริหารส่วนตำบลกุดหวาย ตำบลกุดหวาย อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์   วันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๔๘


โดย นายกิตติ สัตย์ซื่อ ปลัดจังหวัดสุรินทร์ ประธานในพิธี


มีนายสมปอง พวงบุญ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกุดหวาย ในนามของ คณะทำงานโครงการของดีตำบลกุดหวาย ตลอดจนพี่น้องประชาชนชาวตำบลกุดหวาย ทุกคน ขอขอบคุณท่านกิตติ สัตย์ซื่อ เป็นอย่างสูง ที่ให้เกียรติมาเป็นประธานในพิธีเปิด โครงการของดีตำบลกุดหวาย ในวันนี้








กรมส่งเสริมการเกษตรได้กำหนดแผนยุทธศาสตร์ส่งเสริมการเกษตร ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙) ได้กำหนดวิสัยทัศน์ไว้ว่า “เกษตรกรมั่นคง ภาคการเกษตรมั่งคั่ง ทรัพยากรการเกษตรยั่งยืน " โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข็มแข็งและขยายเครือข่าย การเกษตรตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สนับสนุนการเชื่อมโยงตลาดระหว่างชุมชน สร้าง ความภูมิใจและยกย่องให้เกียรติเกษตรกรที่ประสบความสำเร็จ เพื่อเป็นต้นแบบแก่ เกษตรกรรายอื่น ๆ โดยในพื้นที่ตำบลกุดหวาย เป็นตำบลที่มีศักยภาพในด้านการทำ เกษตร หลากหลายรูปแบบ ทั้งการทำนาปี นาปรัง การปลูกพืชสวน เช่น ยางพารา การ ปลูกพืชไร่ เช่น อ้อย มันสำปะหลัง การปลูกพืชผักสวนครัว รวมถึงการเลี้ยงสัตว์ เช่น โค กระบือ สุกร และไก่พื้นเมือง ทั้งยังมีระบบชลประทานที่ช่วยเสริมให้กระบวนการผลิตที่มี ประสิทธิภาพ เพียงแต่ยังไม่ครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่






องค์การบริหารส่วนตำบลกุดหวาย จึงจัดทำ โครงการของดีตำบลกุดหวาย เพื่อบูรณาการความร่วมมือ ระหว่างหน่วยงานวิชาการ หน่วยงานส่งเสริม บริการ ถ่ายทอด เทคโนโลยีการเกษตร ในการพัฒนาฟื้นฟูเกษตรกร ให้สามารถทำการผลิต สนับสนุนการ เชื่อมโยงตลาดระหว่างชุมชน สร้างความภูมิใจและยกย่องให้เกียรติเกษตรกรที่ประสบ ความสำเร็จ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน


ในการจัดโครงการของดีตำบลกุดหวาย ครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนการจัด นิทรรศการ การบริการวิชาการ จากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และกลุ่ม เกษตรกร กระผมในนามของคณะทำงาน ต้องขอขอบคุณทุกท่าน ที่เกี่ยวข้องในโอกาสนี้ ##




















วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

คืนสู่เหย้า 103 ปี โรงเรียนบ้านระแงง ราตรีเหลืองแดง

 


##วันที่ 11 เมษายน 2568 เวลา 18.00 น. ลานสนามฟุตบอล  โรงเรียนบ้านระแงง นายวิรัตน์  ชำนาญการ   อดีตผู้พิพากษาศาล  ให้เกียรติมาเป็นประธานในงานราตรีเหลืองแดง “103 ปีคืนสู่เหย้าโรงเรียนบ้านระแงง”และมอบโล่ศิษย์เก่าดีเด่นประจำปี พ.ศ.2568 โดยมี นายอนุชา  วัชรศีขร กล่าวต้อนรับ การจัดงานคืนสู่เหย้า   คณะกรรมการ คณะครูอาจารย์ แขกผู้มีเกียรติ และเพื่อนศิษย์เก่า ที่มาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

 สมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนบ้านระแงง

จัดงานคืนสู่เหย้า โรงเรียนบ้านระแงง ราตรีเหลืองแดง “103ปีคืนสู่เหย้าโรงเรียนบ้านระแงง” เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน และบุคลากรของโรงเรียน


โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างสายใยแห่งมิตรภาพ และความรักความสามัคคีระหว่างศิษย์เก่าทุกช่วงวัย ร่วมระลึกถึงพระคุณของครูอาจารย์ ที่ได้ทุ่มเทในการให้การศึกษาแก่พวกเรา สนับสนุนกิจกรรมและพัฒนาโรงเรียน เพื่อสืบสานความเป็นเลิศในด้านการศึกษา

การจัดงานในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือจากศิษย์เก่าหลายรุ่น คณะครูอาจารย์ และผู้สนับสนุนที่มีความรักในสถาบัน ทุกท่านได้ช่วยกันสละเวลา แรงกาย และทรัพยากร เพื่อให้งานคืนสู่เหย้าวันนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ขอบคุณทุกท่านที่มาร่วมงาน อันแสดงถึงความผูกพันที่เรามีต่อโรงเรียนแห่งนี้และขอให้มิตรภาพของเรายั่งยืนตลอดไป



  กำหนดการงานคืนสู่เหย้าโรงเรียนบ้านระแงง

วันที่ 11 เดือนเมษายน พ.ศ.2568

ณ โรงเรียนอนุบาลศีขรภูมิเวลา 07.00 น.

- ทุกคนพร้อมกันที่หอประชุมระแงงอนุสรณ์

- ประธานจุดธูป เทียน บูชาพระรัตนตรัย

- ผู้นำทางศาสนาดำเนินพิธีการตามศาสนา

- พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์

- คณะศิษย์เก่าถวายปัจจัย สังฆทาน ภัตตาหารแด่พระสงฆ์

- พระสงฆ์รดน้ำมนต์และอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้ที่ล่วงลับ

- เสร็จพิธีทางด้านศาสนา

เวลา 10.00 น.

- พิธีมุทิตาจิต

- ประธานจัดงานกล่าวความรู้สึกในพิธีมุทิตาจิต

เวลา 10.20 น.

- กิจกรรมกราบบูชาครูเวลา 11.30 น.

- พิธีรดน้ำดำหัวตามขนบธรรมเนียมประเพณีสงกรานต์ (การแต่งกาย สวมเสื้อลายดอก สีสดใส)

กำหนดการช่วงภาคค่ำ

เวลา 17.45 น.

- ทุกคนพร้อมกันบริเวณจัดงาน

เวลา 18.00 น.

- ประธานรุ่นกล่าวรายงานต่อประธานจัดงาน

- ประธานจัดงานกล่าวจัดงาน 103 ปี งานคืนสู่เหย้าโรงเรียนบ้านระแงง

- การแสดงนักเรียนโรงเรียนอนุบาลศีขรภูมิ

- ขั้นรายการร้องเพลง 4 เพลง

- การแสดงของคณะครูโรงเรียนอนุบาลศีขรภูมิ

- พิธีการมอบโล่และเกียรติบัตรให้ศิษย์เก่าดีเด่น

- เปิดงานราตรีคืนสู่เหย้า บรรยากาศการรำวงย้อนยุค

เวลา 20.00 น.- 22.00 น. ชมคอนเสิร์ต เวียง นฤมล

เวลา 22.01-23.00 น.

วงดนตรีbackupแสดง

##ติดต่อซื้อบัตร และเสื้อคืนสู่เหย้าได้ที่ร้านวัชรศีขร โทร044 561116

086-4688804 และ

ที่โรงเรียนอนุบาลศีขร

โทร 044-561253



รายการอาหาร จากร้านพรชัยนครปฐม

1.ออเดิฟอาหาร 3 อย่าง

2.หูฉลามน้ำแดง

3.ปลากระพงนึ่งซีอิ้ว

4.เปาฮื้อขาห่าน

5.สลัดกุ้งทอด

6.ต้มยำรวมมิตรน้ำใส

7.ข้าวผัดปู

8.แป๊ะก๊วยสาคูแคนตาลูป

แถมข้าวเกรียบ 1 จาน

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารีประชุมด่วนผู้นำ 3 จังหวัดชายแดน ไทย- กัมพูชา หารือประเด็นเชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 




##ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ประชุมด่วนผู้นำ 3 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา หารือประเด็นเชื่อมโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังเจ้าหน้าบุกค้นบ้านเป้าหมายพบเครื่องทำพาสปอร์ต และพาสปอร์ตปลอมเป็นจำนวนมาก

ที่ห้องประชุมเหมะบุตร กองบัญชาการกองกำลังสุรนารี ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ พลตรีสมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พร้อมด้วย นายเกรียงศักดิ์ สมจิต รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พันเอกจิตรกร  จันทร์สว่าง รอง ผอ.กอ.รมน.จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเขตชายแดน ผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อร่วมประชุมหารือกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาการก่ออาชญากรรมออนไลน์ และรับทราบถึงสถานการณ์ล่าสุดของบริเวณพื้นที่ชายแดนทั้ง 3 จังหวัด โดยพบว่ามีกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือกลุ่มทุนสีเทา ยังคงพักอาศัย ณ ฝั่งประเทศฝั่งตรงข้ามชายแดนไทย ทั้ง 3 จุด คือ ช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ช่องจอม อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และช่องสายตะกู อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ 






โดยมาตรการเบื้องต้น ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้มีการตัด และหันเสาสัญญานอินเตอร์เน็ตที่ใช้ข้ามไปยังปอนคาสิโน โอร์เสม็ด ในประเทศกัมพูชาแล้ว อีกทั้งยังพบว่ามีการเคลื่อนไหวภายในที่พักของกลุ่มแก็งคอลเซนเตอร์หรือกลุ่มทุนสีเทา บริเวณด้านหลัง หรือโดยรอบคาสิโนทั้งหมด และได้มีการกั้นด้วยกำแพงสังกะสีปกปิดเจ้าหน้าที่เพื่อไม่ให้สามารถตรวจเห็นความเคลื่อนไหวภายในได้ และมีการจัดเวรเฝ้ายามอย่างเข้มงวดอีกด้วย

ทั้งนี้ล่าสุดเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการช่วยเหลือต่างชาติเป็นชาวจีน 1 นาย ที่ถูกลักพาตัวบังคับให้ทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่กระโดดลงจากรถหนีตาย โร่ขอความช่วยเหลือจากตำรวจสุรินทร์  ต่อมาได้มีการขยายผลจนพบที่พักกลุ่มเป้าหมายใช้กบดานเพื่อใช้เป็นสถานที่ทำเอกสารพาสปอร์ตปลอม โดยจากการตรวจค้นสามารถจับกุมผู้ต้องหาเป็นชาวเวียนนามได้ 4 ราย  เครื่องอุปกรณ์ในการจัดทำพาสปอร์ตปลอม และพาสปอร์ของชาวจีนจำนวนหลายเล่ม

ที่ผ่านมากองกำลังสุรนารี ได้ให้ความช่วยเหลือคนไทย และชาวต่างชาติ ที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ช่องจอม จากฝั่งกัมพูชา จำนวน 13 ครั้ง สามารถช่วยเหลือได้ 37 ราย เป็นชาวไทย 35 ราย และ ชาวต่างชาติ 2 ราย ดำเนินการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยร่วมตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ และอินเตอร์เน็ต ร่วมกับสำนักงาน กสทช. เขต 22, เขต 23 และ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ในการตัดสัญณานทั้ง 3 จังหวัดแล้ว

ทั้งนี้แนวโน้มการขยายตัวในพื้นที่กลุ่มทุนสีเทาในพื้นที่ชายแดน ทั้ง 3 จังหวัด พบว่ากลุ่มทุนสีเทาอาศัยผลประโยชน์จากผู้มีอิทธิพล เอื้ออำนวยต่อการดำเนินธุรกิจ และยังคงรักษาสถานะเป็นพื้นพื้นที่ ที่สามารถกระทำผิดได้ต่อไป อย่างไรก็ตามกองกำลังสุรนารีจะได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปกครองจังหวัด ทั้ง 3 จังหวัดในการวางมาตรการเข้มเพื่อเป็นการป้องกัน และปกป้องประเทศชาติให้ดีที่สุด##









วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

  





กองกำลังสุรนารีขานรับนโยบายรัฐบาล ประชุมวางมาตรการปราบปรามสกัดกั้น “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” เข้มปิดกั้นเส้นทางธรรมชาติตามแนวชายแดน การตัด-ปรับเสาสัญญาณโทรมนาคม เพื่อป้องกันและยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้น อย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน

ที่ศูนย์ประสานงานพื้นที่ชายแดน ด่านช่องจอม อำเภอกาบลเชิง จังหวัดสุรินทร์ พันเอกบุญเสริม บุญบำรุง รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เป็นประธานประชุมร่วมกับหน่วยงานฝ่ายมั่นคงต่างๆ โดยมีนายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นายอำเภอกาบเชิง พ.ต.อ. คำพล โนนุช

ผกก.สภ.กาบเชิง กอรมน.จังหวัดสุรินทร์  โทรมนาคม หรือ กสทช.การไฟฟ้าภูมิภาคอำเภอปราสาท ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ ด่านศุลกากร องค์การบริหารส่วนตำบลกาบเชิง และหน่วยงานที่เกี่ยว เข้าร่วมวางมาตรการในครั้งนี้ เนื่องด้วยปัจจุบัน ปัญหาการหลอกลวงประชาชนให้ไปทำงานในต่างประเทศโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ได้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านในการส่งแรงงานไปยังประเทศที่ 3 รวมถึงปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่มีการหลอกลวงคนไทยหรือชาวต่างชาติไปทำงาน โดยผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมือง หรือช่องทางธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้เสียหายเป็นวงกว้าง 

กองกำลังสุรนารีจึงได้ประชุมร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อป้องกันและยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้น อย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจนในระยะเวลาอันสั้น โดยได้กำชับกำลังพลในการลาดตระเวนตรวจสอบเส้นทางธรรมชาติ เพื่อป้องกันการหลบหนีของกลุ่มมิจฉาชีพ และได้มีการการตัดและปรับเสาสัญญาณโทรมนาคม และอินเตอร์เน็ต โดยร่วมกับสำนักงาน กสทช. เขต 22, เขต 23 และ หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทำการบรับทิศทางเสาสัญญาณ เพื่อควบคุมไม่ให้นำไปใช้เป็นเครื่องมือในการก่ออาชญากรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่อาศัย หรือหลบซ่อนอยู่ตามแนวตะเข็บชายแดนในเขตประเทศเพื่อนบ้านได้ อีกทั้งในส่วนเรื่องการใช้ไฟฟ้าที่ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านนั้น ทางหน่วยจะได้นำข้อมูลส่งต่อสภาความมั่นคงแห่งชาติเพื่อพิจารณาเห็นสมควรในการตัดไฟหรือไม่

ทั้งนี้การเคลื่อนไหว ในพื้นที่ชายแดนด้านกัมพูชา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ และอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ผ่านมากองกำลังสุรนารี ได้ให้ความช่วยเหลือคนไทย และชาวต่างชาติที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่ช่องจอม จากฝั่งประเทศกัมพูชา จำนวน 13 ครั้ง สามารถช่วยเหลือได้ 37 ราย เป็นชาวไทย 35 ราย และ ชาวเวียดนาม 2 ราย 


 





โครงการส่งเสริมประเพณีแกลมอทำบุญสู่ขวัญข้าวของชาวตำบลตรีม

ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘


องค์การบริหารส่วนตำบลตรีม อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์


 โดยพิศาล เค้ากล้า นายอำเภอศีขรภูมิ เป็นประธานเปิดงาน

มี นายประพงษ์ศักดิ์ วงศ์อนุ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลตรีม

กล่าวรายงาน คณะกรรมการจัดงานและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่าย ในพิธีเปิด โครงการส่งเสริมประเพณีแกลมอทำบุญสู่ขวัญข้าวของชาวตำบลตรีม ประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ ในวันนี้





การเล่นแกลมอของ   ชาวกูย เรียกว่า “แกลมอ” เป็นประเพณีที่มีการปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยมีความเชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนในครอบครัว อาจจะเกิดจากการไม่สบายในสุขภาพร่างกาย ของปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ ลูก หลาน ซึ่งได้ไปรับการรักษาจากแพทย์แผนปัจจุบันมาแล้วแต่อาการไม่ดีขึ้น จึงมีความเชื่อว่าอาจจะเกิดจากผีหรือเทวดา ผีบรรพบุรุษมาทำให้เกิดอาการไม่สบายนี้ขึ้น จึงอาศัยประเพณีในการ เล่นแกลมอนี้ ชาวตำบล ตรีม อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ เป็น     ชาวกูย กลุ่มหนึ่งที่ยังมีความเชื่อเรื่องผีและ วิญญาณค่อนข้างสูง และอีกหนึ่งความเชื่อเป็นประเพณีที่มีการปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษหลังฤดูเก็บเกี่ยว ข้าวเสร็จจะเป็นพิธีเพื่อเฉลิมฉลอง“บุญกุ้มข้าวใหญ่” หรือบุญสู่ขวัญข้าวนั้น เป็นบุญประเพณีของชาวอีสานที่ แสดงให้เห็นจิตวิญญาณ ของชุมชนที่ดำรงอยู่ด้วยวิถีเกษตรกรรมมาช้านาน เพื่อขอขมาจะได้เป็นสิริมงคลต่อตนเองและครอบครัวให้มีแต่ความผาสุก


องค์การบริหารส่วนตำบลตรีม ได้เห็นความสำคัญของประเพณีและวัฒนธรรมดังกล่าวจึงจัดโครงการ ส่งเสริมประเพณีแกลมอทำบุญสู่ขวัญข้าวของชาวตำบลตรีม ประจำปีงบประมาณพ.ศ.๒๕๖๘ โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้




เพื่อเป็นการอนุรักษ์ และสืบทอดประเพณีที่มีมานานเอาไว้ให้ชนรุ่นหลังให้ปฏิบัติตาม


เพื่อเป็นการส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงาม การมีส่วนร่วมของชุมชนเกิดความสามัคคี ในชุมชนและเกิดความเสียสละประโยชน์ส่วนตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม


เพื่อเป็นการส่งเสริมประเพณีฮีตสิบสองคลองสิบสี่ เป็นประเพณีการทำบุญที่มีประจำเดือนชาวอีสาน


กิจกรรมที่จัด ประกอบด้วยกิจกรรมดังนี้


พิธีทางศาสนาพระสงฆ์เจริญพุทธมนต์


พิธีสู่ขวัญข้าว


 กิจกรรมสืบสานวัฒธรรมส่งเสริมประเพณีแกลมอรำบวงสรวง (พ่อมด แม่มด) ทั้ง ๑๘ หมู่บ้าน

 ขอเรียนเชิญท่านประธานได้ให้โอวาทและกล่าวเปิดงานโครงการ ส่งเสริมประเพณีแกลมอทำบุญสู่ขวัญข้าวของชาวตำบลตรีม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔๘