ตม.สุรินทร์ เด้งรับนโยบายสนธิกำลังตรวจเข้มจับแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย

 

ตม.จว.สุรินทร์ เด้งรับนโยบาย สนธิกำลัง ตรวจเข้มจับจริง

เเรงงานต่างด้าวผิดกฏหมาย!!!!!!!!

    ตามนโยบายผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้สืบสวนปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 เวลาประมาณ 20.30 น. พ.ต.อ.ธนวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผกก.ตม.จว.สุรินทร์, พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก รอง ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่งานสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สุรินทร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์, สำนักงานจัดหางานจังหวัดสุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว ออกตรวจสอบสถานประกอบการในพื้นที่ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้ตรวจพบ นายอัดตาชัย ไม่มีนามสกุล อายุ 25 ปี สัญชาติเมียนมาร์ (ทราบภายหลัง) กำลังยืนอยู่ข้างๆรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขายโรตีให้แก่ลูกค้าที่บริเวณริมถนนด้านหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ภายในปั้ม ปตท.ข้างห้างโรบินสันสุรินทร์ ถ.สุรินทร์-ศึขรภูมิ ต.สลักได อ.เมือง จว.สุรินทร์ จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจเอกสารประจำตัวและเอกสารเดินทาง นายอัดตาไช ฯ แจ้งว่าตนมีภูมิลำเนาที่จังหวัดมะละแหม่ง ประเทศเมียนมาร์ เมื่อปีที่แล้วตนลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งในแต่ละวันจะขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างเร่ขายโรตีโดยมีรายได้วันละ 700 บาท  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต,เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน,ขับขี่รถ(จักรยานยนต์)โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่”ควบคุมตัวพร้อมนำของกลางนำส่ง พงส.สภ.เมืองสุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวในจังหวัดสุรินทร์ กรุณาแจ้งมายัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ เลขที่ 919 หมู่ที่17 ตำบลกาบเชิง อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ 32110 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 044559127 หรือที่สายด่วน 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

ตม.สุรินทร์ รวบผู้ต้องหาตามหมายจับตาด่าน

 

ตม.จว.สุรินทร์ รวบผู้ต้องหาตามหมายจับคาด่าน..!!!!!!!!

    ตามนโยบายผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจออกสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ พ.ต.อ.ธนวัฒน์ พูลสวัสดิ์ ผกก.ตม.จว.สุรินทร์,พ.ต.ท.ยศธน กระบิน, พ.ต.ท.อุดร ชาวแขก รอง ผกก.ตม.จว.สุรินทร์ เด้งรับนโยบาย สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเข้มการเดินทางเข้า-ออก นอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 28 พ.ย.2567 เวลาประมาณ 15.30 น. ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตม.จว.สุรินทร์ กำลังปฏิบัติหน้าที่ได้มี น.ส.จิรนันท์ฯ สัญชาติ ไทย เดินทางมาที่ช่องตรวจหนังสือเดินทางขาออกไปนอกราชอาณาจักร จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน  อ.กาบเชิง จว.สุรินทร์ เพื่อขออนุญาตเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร จากการตรวจสอบด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ของ สตม.(BIOMETRICS) ปรากฏข้อมูลว่า น.ส.จิรนันท์ฯ ผู้ต้องหา เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ 10/2566  ลง 11 ม.ค. 2566 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” จึงได้แจ้งให้ น.ส.จิรนันท์ฯ ผู้ต้องหาทราบ และเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตรวจสอบข้อมูลโดยละเอียด ได้รับการยืนยันว่าผู้ต้องหานี้ยังไม่ถูกจับกุมตามหมายจับนี้และยังต้องการตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดี จากนั้นจึงได้แจ้งให้ น.ส.จิรนันท์ฯ ผู้ต้องหา ทราบว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าว โดยแสดงสำเนาหมายจับให้ดูและอ่านหมายจับให้ฟัง โดย น.ส.จิรนันท์ฯ ผู้ต้องหา รับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับดังกล่าวจริงและไม่เคยถูกจับกุมตามหมายจับนี้มาก่อนแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งให้ทราบว่าต้องถูกจับกุมตามหมายจับนี้และได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิให้ทราบแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการจับกุมส่ง พงส.สภ.เมืองร้อยเอ็ด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดเกี่ยวกับคนต่างด้าวในจังหวัดสุรินทร์ กรุณาแจ้งมายัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุรินทร์ เลขที่ 919 หมู่ที่17 ตำบลกาบเชิง อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ 32110 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 044559127 หรือที่สายด่วน 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณอย่างยิ่ง

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ตรวจเยี่ยมภูมิประเทศและให้กำลังใจกำลังพลกองทัพบกที่ปฏิบัติงานหน้าที่รักษาอธิปไตยในพื้นที่ชายแดน ไทย- กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์

 

##พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ตรวจเยี่ยมและตรวจภูมิประเทศ พร้อมให้กำลังใจกำลังพลกองทัพบก ที่ปฏิบัติงานหน้าที่รักษาอธิปไตยในพื้นที่แนวชายแดน ไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ ##

พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางโดย เฮลิคอปเตอร์กองทัพบกไปยัง สนามอฮ. ศูนย์พัฒนาพื้นที่ชายแดน  อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ จากนั้นคณะ เดินทางโดยรถยนต์ ไปยังจุดตรวจการณ์ช่องปลดต่าง ตำบลกาบเชิง อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เพื่อตรวจภูมิประเทศ และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลกองทัพบก ที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยในพื้นที่แนวชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมประชุมติดตามผลการปฏิบัติงานของหน่วยในพื้นที่ ตลอดจนรับทราบปัญหา ข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะ รวมถึงมอบนโนบายข้อกำชับการปฏิบัติงานแก่กำลังพลให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยมี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 พลตรี สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี และผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ให้การต้อนรับ โดยมี พันเอกภาคภูมิ นภากาศ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่สอง กองกำลังสุรนารี และพันเอกกิตติศักดิ์ บังพิมาย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 กองกำลังสุรนารี ได้กล่าวบรรยายสรุป ถึงผลการดำเนินงานในห้วงที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก  ได้มอบเครื่องอุปโภค- บริโภค แด่ตัวแทนหน่วยต่างๆ ในพื้นที่ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในครั้งนี้

 จากนั้นพลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก และคณะ ยังได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ร่วมกับกำลังพล อย่างเป็นกันเองอีกด้วย##

จังหวัดสุรินทร์ จัดงาน ISAN SOFT. POWER "ใส่ไทย เฟสติวัล" เทศกาลที่เป็น SOFT POWER ด้านแฟชั่น ผ้าไทยพื้นบ้าน

 

สุรินทร์ จัดงาน ISAN SOFT POWER "ใส่ไทย เฟสติวัลเทศกาลที่เป็น SOFT  POWER ด้านแฟชั่น ผ้าไทยพื้นบ้าน

เมื่อวันที่ 27 พ.ย.67 ที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ นายวสันต์ ชิงชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยนางพัชรินทร์ สิทธิพรรณโยธา อำนวยการกองส่งเสริมกิจกรรม ฝ่ายกิจกรรม ททท. และนางศรีสุภรณ์ ชมศรีหาราชพร ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสุรินทร์ ได้ร่วมกันเป็นประธานเปิดงาน“ใส่ไทย เฟสติวัล” ISAN SOFT POWER เทศกาลที่เป็น  SOFT POWER  ด้านแฟชั่นให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี ถือเป็นการสร้างสีสัน สร้างรายได้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ และเพื่อผลักดันให้เป็น SOFT POWER  ด้านแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่นผ้าไทยพื้นบ้าน ศิลปิน องค์กร หมู่บ้านผ้าไทย ได้พัฒนาส่งเสริม ยกระดับให้หัตถกรรมและแฟชั่นไทยสู่สากล ด้วยการดึงเอา  ISAN SOFT POWER ดนตรี อาหาร ศิลปะ วัฒนธรรม  นำมาผสมผสานเข้ากับสิ่งใหม่ นำเสนอความร่วมสมัยเพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้เข้าถึงผ่านการจัดงานในรูปแบบ เฟสติวัล

ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ ททท. ในการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเกิดการเดินทางเพื่อสร้างประสบการณ์ในการเข้าถึงเรื่องแฟชั่นผ้าไทยในแต่ละท้องถิ่นที่มีอัตลักษณ์ที่แตกต่างกัน ก่อให้เกิดการพำนักที่นานวันขึ้น มีการใช้จ่ายในพื้นที่มากขึ้น อีกทั้งยังส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว โดยเฉพาะการสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยว “5 Must Do in Thailand” ได้แก่ 1.Must See นำเสนอเทศกาล งานประเพณีท้องถิ่นจนถึงกิจกรรมนานาชาติ 2.Must Seek นำเสนอแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม กระตุ้นให้เกิดการเดินทาง 3.Must Buy สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ และชุมชน ด้วยสินค้าท้องถิ่น 4.Must Taste ต่อยอดอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ จาก Local สู่ Royal  5.Must Try กิจกรรมท่องเที่ยวที่กระตุ้นการเดินทางและการใช้จ่าย

โดยกิจกรรมภายในงาน แบ่งออกเป็น  4 โซน ประกอบด้วย  โซนที่ 1  Sai Thai Fashion Village  เป็นโซนเวิร์คช็อป และ พูดคุยในรูปแบบหมู่บ้านทอผ้า เรียนรู้แฟชั่นไทยและวัฒนธรรมอีสานอย่างสร้างสรรค์ และการจำลองวิถีชุมชนในพื้นถิ่น โซนที่ 2  Sai  Thai  Art จุดถ่ายภาพ Art Installation รูปลักษณ์แปลกใหม่ สะดุดตา ใส่ความเท่ห์ให้ผ้าไทยกับการนำผ้าไทยมาทำงานอาร์ต สร้างสรรค์งานศิลปะที่สวยงามในแต่ละวัน ยังมีการแสดง แสง เสียง วันละ 3 รอบ เพิ่มบรรยากาศ ให้เต็มอิ่มมากขึ้นในงาน โซนที่ 3 Sai Thai  Lifestyle Market  โซนจัดจำหน่าย อาหาร เครื่องดื่ม ของที่ระลึก จากชุมชนและผลิตภัณฑ์หัตถกรรมสินค้าพื้นเมือง  มากกว่า 50 บูธ และโซนที่ 4 Sai Thai Fun Stage  โซนเวทีหลัก ได้จัดให้มีการแสดงศิลปะ วัฒนธรรมในท้องถิ่น รวมถึง มีดาราศิลปินที่มีชื่อเสียง มาร่วมสร้างสีสันและความสนุกตลอดระยะเวลา 4 วันด้วย อาทิ เช่น  วงเก็ตสึโนว่า, ไผ่ พงศธร, ซีซั่น ไฟท์ และ ไอซ์ ศรัณยู เป็นต้น และสำหรับพิธีเปิดในวันนี้ก็ได้จัดให้มีไฮไลท์ การเดินแฟชั่นโชว์ จากดีไซน์เนอร์ชื่อดังในจังหวัดสุรินทร์  มาให้ได้ชมกันด้วย 

สำหรับงาน “ใส่ไทย เฟสติวัล”  ในครั้งนี้เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่กระตุ้นการเดินทาง และการจับจ่ายใช้สอยของนักท่องเที่ยวที่จะได้สัมผัสและเข้าถึงแฟชั่นผ้าไทยที่มีเอกลักษณ์ได้อย่างชัดเจน ว่า “5 Must Do in Thailand” จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขอเชิญชวนทุกคนใส่ชุดไทย เที่ยว แชะ ชม กิน  ช็อป มันส์ๆ  ร่วมผลักดันให้เป็น SOFT POWER  ด้านแฟชั่นให้เป็นงานที่ยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี และยังมีกิจกรรมให้ผู้ที่มาร่วมงานได้ร่วมสนุกกับกิจกรรม ใส่ชุดผ้าไทยร่วมงานใส่ไทย เปิดวาร์ป ติด #SaiThaiFestival โพสต์ Facebook โชว์ภาพขึ้นจอยักษ์ในงาน ไม่พอ ยังรับสิทธิ์ฟินฟรี รับคูปองส่วนลดแทนเงินสด สำหรับใช้กับร้านค้าภายในงาน  เปิดโอกาสให้ทุกท่านทั้งในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง เข้าร่วมกิจกรรมได้ฟรี  ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น  โดยกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 – 21.30 น. ระหว่างวันที่ 27-30 พฤศจิกายน 2567 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ 

พิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 44 "คชสารเกมส์"

 

##พิธีเปิด

การแข่งขันกีฬานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 44

“คชสารเกมส์” ##

26 พฤศจิกายน 2567 ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขัน จัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 44 “คชสารเกมส์” ภายใต้คำขวัญ “สร้างสัมพันธ์ด้วยไมตรี สร้างสามัคคีด้วยกีฬา” ระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน – 1 ธันวาคม 2567 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยมีมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยราชภัฏเลย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ และมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ร่วมทำการแข่งขันใน 22 ชนิดกีฬา 1 ชนิดกีฬาสาธิต และ 1 การประกวด ประกอบด้วย กรีฑา ฟุตบอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล แบดมินตัน เซปักตะกร้อ เทควันโด ฟุตซอล เทนนิส เทเบิลเทนนิส วอลเลย์บอลชายหาด เปตอง แฮนด์บอล ฮับกิโด มวยสากลสมัครเล่น มวยไทยสมัครเล่น หมากกระดาน ครอสเวิร์ด เอแมท Esports บาสเกตบอล 3x3 แอโรบิคดานซ์ ตะกร้อลอดห่วงสากล (กีฬาสาธิต) และการประกวดทักษะดนตรี/ขับร้อง

โดยพิธีเปิดการแข่งขันจัดพิธีเปิดการแข่งขันกีฬานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 44 “คชสารเกมส์” ได้รับเกียรติจาก นายชำนาญ  ชื่นตา (ผู้ว่าราชการ จ.สุรินทร์  เป็นประธานและกล่าวต้อนรับคณะผู้ควบคุมทีมและนักกีฬาจากทั้ง 11 มหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีรองศาสตราจารย์ ดร.ฉลอง สุขทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์

 เป็นผู้กล่าวรายงาน มีนายภานุพันธุ์ ตั้นจัด บุคลากรมหาวิทายลัยราชภัฏสุรินทร์ อดีตนักมวยทีมชาติไทย รางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 27 “เนปิดอว์ 2013” ณ ประเทศเมียนมาร์ เป็นนักกีฬาอาวุโสนำกล่าวปฏิญาณตน และนายวีรพล วิชุมา นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ นักยกน้ำหนักทีมชาติไทย รางวัลเหรียญเงินจากการแข่งขันกีฬาโอลิมปิค “ปารีส 2024” ณ ประเทสฝรั่งเศส เป็นผู้วิ่งคบเพลิง

สำหรับการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือสำหรับนักศึกษาและสำหรับอาจารย์และบุคลากร จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อส่งเสริมให้นักศึกษาได้ใช้ทักษะและส่งเสริมความเป็นเลิศด้านกีฬาและเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่างนักศึกษา รวมถึงอาจารย์และบุคลากรของมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 11 แห่ง

ซึ่งในปี 2567 มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ได้รับสิทธิ์ให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม 2567 ประกอบด้วย การแข่งขันกีฬานักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 44 และการแข่งขันกีฬาอาจารย์และบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 53 โดยมีสัญลักษณ์ประจำการแข่งขันเป็น รูปช้างชูงวง ที่อ่อนช้อยงดงามแสดงถึงความยินดีในการต้อนรับคณะนักกีฬาและผู้ฝึกสอนที่มาเยือนมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ พร้อมสัญลักษณ ์ห่วงคล้องกัน 11 วง แทนมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้ง 11 แห่ง และมี “ช้างคู่” ได้แก่ ช้างเพศผู้ “พี่สัมพันธ์” และ ช้างเพศเมีย “น้องไมตรี” เป็นสัญลักษณ์นำโชค (Mascot) ประจำการแข่งขันในครั้งนี้

อนึ่ง ในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 จะมีพิธีเปิดการแข่งขันกีฬาอาจารย์และบุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏกลุ่มภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 53 “คชสารเกมส์” จัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 3 - 4 ธันวาคม 2567 มีการแข่งขันทั้งหมด 16 ชนิดกีฬา และ 2 การประกวด ประกอบด้วย ฟุตบอล ฟุตซอล วอลเลย์บอล บาสเกตบอล 3x3 แบดมิินตัน เซปักตะกร้อทีมเดี่ยว ลอนเทนนิส เทเบิลเทนนิส เปตอง หมากกระดาน กอล์ฟ สนุ๊กเกอร์ แชร์บอล Esports แอโรบิคดานซ์ กีฬาฮาเฮ การประกวดขบวนพาเหรด และการประกวดกองเชียร์ ##

นบข.เคาะข่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10ไร่

 

## นบข. เคาะช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ ##

เมื่อวันที่ 25 พ.ย 67คณะกรรมการนโยบายบริหารข้าวแห่งชาติ( นบข.) เคาะจ่ายค่าเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวให้ชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เตรียมชง ครม. 29 พ.ย.นี้ ให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่ พร้อมยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ หรือ นบข. ว่าที่ประชุมมีมติเห็นชอบตามที่คณะอนุกรรมการด้านการผลิตเสนอมา โดยชาวนาจะได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มผลผลิตไร่ละ 1000 บาท ไม่เกินครัวเรือน 10 ไร่ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรรายย่อยจำนวนมากได้รับประโยชน์ 4.68 ล้านครัวเรือน วงเงินกว่า 3.8 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการให้เฉพาะฤดูเก็บเกี่ยวครั้งนี้ ส่วนระยะยาวต้องดูว่าจะมีการเพิ่มผลผลิตอย่างไรซึ่งหวังว่าจะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร 29 พฤศจิกายนนี้ เพื่อให้ทันเป็นของขวัญปีใหม่ เป็นแพ็จเกจเดียวกับโครงการสินเชื่อชะลอการขาย และสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าว

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง โดยเปลี่ยนเป็นการจ่ายไร่ละ 1000 บาทแทน ซึ่งจะเป็นการใช้เงินจาก ธกส. ที่ขณะนี้มีอยู่ 2.9 หมื่นล้านบาท โดยส่วนที่จะเพิ่มมา 9 พันล้านบาท ผู้บริหาร ธกส. บอกว่าสามารถบริหารจัดการได้

ด้าน นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย บอกว่า รู้สึกพอใจ แม้ว่าที่ผ่านมาจะเคยได้ไร่ละ 1000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ แต่ปีนี้ข้าวราคาตกต่ำ                        นางนฤมล เห็นใจเกษตรกรรายย่อย จึงขอปรับเพิ่มเป็นไร่ละ 1000 บาท

ขณะที่ตัวแทนเกษตรกร บอกว่า ใจจริงอยากได้รายละ 1000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ แต่ด้วยงบประมาณที่มีจำกัด อีกทั้งรัฐบาลก็ได้แจกเงินโครงการ 10,000 บาทไปแล้ว รวมถึงต้องนำเงินไว้พัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อความยั่งยืนของเกษตรกร จึงรู้สึกพอใจ .314 ##

ธัญพร มุ่งเจริญพร คว้าเก้าอี้ นายกอบจ.สุรินทร์ ได้สำเร็จ เป็นนายกอบจ.หญิงคนแรกของสุรินทร์

 

## นางธัญพร  มุ่งเจริญพร คว้าเก้าอี้ นายกอบจ.สุรินทร์ไปครอง เป็นนายกอบจ.หญิงคนแรกของจังหวัดสุรินทร์ ล้มแชมป์เก่า นายพรชัย เจริญพร ขาดลอยทิ้งห่าง 11,219 คะแนน

วันที่ 24 พ.ย.67 หลังปิดหีบเลือกตั้งนายกอบจ.สุรินทร์ เวลา 17.00 น.วันที่ 23 พ.ย.67 แต่ละหน่วยต่างนำบัตรเลือกตั้งออกมานับคะแนนเพื่อแจ้งผลคะแนนของแต่ละหน่วยทั้ง 17 อำเภอ 2,326 หน่วย ส่งไปยังอำเภอก่อนรายงานผลคะแนนมายังจุดรวมคะแนนกลางที่หอประชุม อบจ.สุรินทร์ เพื่อทำการแจ้งผลคะแนนแบบเรียลไทม์ มายังจอมอนิเตอร์ใหญ่ ด้านหน้าจุดรวมคะแนนกลาง โดยมีประชาชนสนใจมาเฝ้าติดตามลุ้นอย่างต่อเนื่อง โดยผลคะแนนช่วงแรกพลิกไปมาตลอดเวลา ระหว่างเบอร์ 1 นางธัญพร มุ่งเจริญพร กับ นายพรชัย มุ่งเจริญพร เบอร์ 2 ซึ่งก็เป็นไปตามที่หลายฝ่ายจับตามอง ในการเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ ในครั้งนี้ เป็นการชิงกันเองของตระกูลมุ่งเจริญพร

โดยทางด้านเบอร์ 1 นางธัญพร มุ่งเจริญพร ถือเป็นสะใภ้ของตระกูลมุ่งเจริญพร ภรรยาของ นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร สส.เขต 1 จ.สุรินทร์  พรรคภูมิใจไทย ในขณะที่หมายเลข 2 นายพรชัย มุ่งเจริญพร  เป็นอดีตนายกอบจ.สุรินทร์ ซึ่งลาออกแล้วมาลงชิงชัยในครั้งนี้

ผลคะแนนที่ส่งมาทั้งคู่มีผลคะแนนที่สูสีกันมากและผลัดกันขึ้นนำตลอดเวลา หลังจากนับไปได้เกินครึ่งของหน่วยเลือกตั้ง จากทั้งหมด 2,326 หน่วย นายพรชัย มุ่งเจริญพร เบอร์ 2 คะแนนขึ้นนำเบอร์ 1 กว่า 9 พันคะแนน แต่พอมาโค้งสุดท้าย นางธัญพร มุ่งเจริญพร เบอร์ 1  กลับพลิกมาแซงและคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนำห่างเป็นหมื่นคะแนน จนถึงเวลา 01.00 น.ผลคะแนนขึ้นครบทั้ง 2,322 หน่วย นางธัญพร มุ่งเจริญพร เบอร์ 1 ได้คะแนนรวม 222,756 คะแนน นายพรชัย มุ่งเจริญพร เบอร์ 2 ได้คะแนน 211,537 คะแนน สรุปคะแนนนางธัญพร มุ่งเจริญพร สะใภ้ตระมุ่งเจริญพร ชนะนายพรชัย มุ่งเจริญพร ไปด้วยคะแนนทิ้งห่าง 11,219 คะแนน คว้าเก้าอี้นายก อบจ.สุรินทร์ไปครอง

สรุปผลการนับคะแนนการเลือกตั้งนายก อบจ.สุรินทร์ อย่างไม่เป็นทางการทั้ง 5 เบอร์ ดังนี้หมายเลข 1 นางธัญพร  มุ่งเจริญพร ได้คะแนน 222, 756 คะแนน  หมายเลข 2 นายพรชัย  มุ่งเจริญพร ได้คะแนน 211, 537 คะแนน  หมายเลข 3 นางนัทธมน  ศิริวัฒนวานิช ได้คะแนน 81, 612 คะแนน  หมายเลข 4 นายภัทรพล  หงษ์สูง ได้คะแนน  4,503 คะแนน หมายเลข 5 นายฉลอง  สัตตรัตนามัย ได้คะแนน 15,503 คะแนน  มีผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 573,388 คน จากผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด 1,083,319 คน คิดเป็น 52 เปอร์เซ็นของผู้มาใช้สิทธิ์ การเลือกตั้งเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่พบการร้องเรียนหรือทำผิดกฎหมายการเลือกตั้ง ##

มหัสจรรย์งานช้างสุรินทร์ สีสันการแสดงของช้าง ประจำปี 2567

 

## พาไปชมสีสันการแสดงของช้างแสนรู้ กับจิตรกรช้าง "ช้างวาดรูป" พร้อมแดนซ์สนั่น มันกระจาย ในลานกิจกรรมการแสดงช้างมินิสุรินทร์ ประจำปี 2567##

ที่ลานกิจกรรมการแสดงช้างมินิ โซนหน้าโรงฝึกพลศึกษาเผ่าแผน ในงานช้างประจำปี 2567 ซึ่งปีนี้จังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ สมาคมสื่อมวลชน และชมรมนักวิทยุโทรศัทน์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมจัดกิจกรรมการแสดงความน่ารัก แสนรู้ ระหว่างคนกับช้างขึ้น โดยภายในงานจะพบกับการความสามารถ ของจิตรกรช้าง" กับการรังสรรค์ภาพวาดตามจินตนาการ เป็นความสามารถของช้าง ในการวาดรูปต้นไม้ ภูเขา โดยได้ใช้งวงจับฟู่กันแล้วบรรจงแตะปลายฟู่กันวาดภาพภูเขา ต้นไม้ออกมาได้อย่างสวยงามหลากสีสัน 

ซึ่งหลังจากที่เห็นบอกเลยว่าช้างแต่ละเชือก วาดภาพรังสรรค์ได้ออกมาอย่างสวยงามไม่แพ้คนวาดเลยทีเดียว และแต่ล่ะภาพจะถูกประมูลตั้งแต่แผ่นล่ะ 500 ุ ถึง 8,000 บาท จากนั้นก็จะเป็นแสดงความสามารถในการแดนซ์สนั่นลานแสดงในเพลงเมล่อน โดยมีผู้ชมล้นลานแสดงและถูกอกถูกใจเพราะแต่เชือกต่างไม่มีการยอม ฟาดลวดลายใส่ไม่ยั้ง

ทำให้ถูกอกถูกใจ บรรดา FC. น้องๆช้าง  ต่างพากันให้ทิป และถ่ายภาพกับน้องๆช้าง สร้างรายได้ให้แก่น้องๆช้างได้วันล่ะเกือบหมื่นบาท

ทั้งนี้การแสดงช้างมินิ ได้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งจะมีการแสดงเช่นนี้ทุกคืนในระหว่างการจัดงานตั้งแต่วันที่ 14 ถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 โดยจะแสดง 2 ช่วงเวลาคือ เวลา 19.20 น.แและ เวลา 20.30 น.

ทั้งนี้รายได้จากการจำหน่ายภาพวาดจากจิตรกรช้าง และทิป จาก FC. หรือจากนักท่องเที่ยวจะนำไปเป็นค่าอาหาร และสวัสดิการของช้างต่อไป##