## ชาวบ้านดีใจรับเงิน 10,000 บาทเป็นวันที่สอง ต่างจังหวัดคึกคัก แห่ถอนเงินสด
26 ก.ย. 2024 เวลา 06.30 น.
ชาวบ้านดีใจรับเงิน 10,000 บาทวันที่สอง ต่างจังหวัดคึกคัก แห่ถอนเงินสดและกดเงินจากตู้เอทีเอ็มกันตั้งเช้ามืด
พลันที่ประชาชนกลุ่มเปราะบางและคนพิการที่ได้รับเงิน 10,000 บาท จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ทำให้เห็นความคึกคักในการไปเบิกถอนเงินสดที่ธนาคาร และตู้เอทีเอ็มของธนาคาร
“เงิน 10,000 บาท” สำหรับแต่ละคนมีคุณค่าและความหมายที่แตกต่างกันไป ตามฐานะ ความจำเป็นของชีวิต
วันที่ 26 กันยายน 2567 เป็นวันที่สองประชาชนกลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับเงิน 10,000 บาท ไปจับจ่ายใช้สอยโดยไม่มีเงื่อนไข
กดเงินสด 10,000 บาท ต่อลมหายใจ ใช้จ่ายจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในการดำรงชีพ
ผู้ได้รับสิทธิ 10,000 บาท ทยอยถอนเงินสดทั้งจำนวนทันที ขณะที่ ธ.ก.ส. เพิ่มสำรองเงินสด ทั้งสาขา และเอทีเอ็มทั่วประเทศ รองรับความต้องการประชาชน หลังประเดิมโอนวันแรก 1.26 ล้านบัญชีราบรื่น
บรรยากาศธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยสาขาอำเภอศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ผู้มีสิทธิได้รับเงิน 10,000 บาท ทยอยเดินทางเข้าถอนเงินสดอย่างคึกคัก
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบางส่วน บอกว่า รู้สึกดีใจที่ได้รับเงิน 10,000 บาท เช่นเดียวกับ สมาชิกในครอบครัวอีกหลายคนก็ได้รับเงินเช่นเดียวกัน แต่คงไม่ได้นำมารวมกันเพื่อทำทุนแต่อย่างใด เนื่องจากสมาชิกครอบครัวแต่ละคนก็มีภาระค่าใช้จ่ายและหนี้สินของแต่ละคน
และขอบคุณรัฐบาลที่ดำเนินนโยบายดังกล่าว
ประชาชนดีใจหลังรอคอยเงินหมื่นมานาน
ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่บัตรประชาชนลงท้ายด้วย 1, 2 ,3 ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้รับเงิน 10,000 บาท เป็นวันที่สอง ต่างพากันมาปรับสมุดบัญชีธนาคาร เพื่อตรวจเช็กยอดเงิน บางคนถึงกับกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่ เพราะรอวันนี้มานานกว่าจะได้รับเงิน 10,000 บาท
ขณะที่ หน้าตู้เอทีเอ็ม หน้าธนาคาร ธกส.สาขาศีขรภูมิ คึกคักไปด้วยประชาชนกลุ่มเปราะบางผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดินทางมาถอนเงิน 10,000 บาทกันตั้งแต่เช้ามืดเลยที่เดียว
ชาวบ้านที่ได้รับโอนเงินบอกว่า ดีใจที่ได้รับเงินในวันนี้จะนำเงินไปใช้จ่ายซื้อของใช้ส่วนตัว และเครื่องอุปโภคบริโภคเก็บไว้ภายในบ้าน และเป็นค่าเทอม ค่าใช้จ่ายในการเรียนหนังสือให้กับลูก บางส่วนจะนำเงินที่ได้ไปใช้หนี้สิน
ส่วนธนาคารกรุงไทย สาขาอำเภอศีขรภูมื มีประชาชนมารอเบิกเงิน 10,000 บาท เพื่อนำไปใช้จ่ายในครอบครัว บางคนจะแบ่งเงินบางส่วนไปใช้หนี้ ขณะที่ผู้สูงอายุจะเก็บเงินเอาไว้สำหรับเอาไว้ใช้จ่ายเป็นค่าเดินทางไปหาหมอเนื่องจากตัวเองอายุมากแล้ว
บางคนก็มารอปรับสมุดและกดเงิน 10,000 บาท ส่วนใหญ่ที่ได้รับเงิน บอกว่าจะนำไปซื้อของใช้ที่จำเป็น เช่น โทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ติดต่อกับลูกที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดที่เหลือก็จะเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัว
ผู้สูงอายุบางคนที่ยังไม่มีเงินเข้าบัญชีทั้งที่ลงทะเบียนขอรับสิทธิไว้แล้วได้เดินทางมาติดต่อที่ธนาคารเพื่อสอบถามว่าเกิดจากความผิดพลาดในการลงทะเบียนหรือไม่##