srikho tv

ข่าวสาร ทั่วไป และวัฒนธรรมท้องถิ่น ประเพณี

วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

กระทรวง ดีอี และกระทรวงการคลังเปิดจุดวอลล์อิน ลงทะเบียน ดิจิทัลวอลเล็ต 5;199 แห่ง คนที่ไม่มีสมาร์ทโพน

 


## กระทรวง ดีอี และกระทรวงการคลัง เปิดจุดวอล์กอิน ลงทะเบียน ดิจิทัลวอลเล็ต 5,199 แห่ง คนไม่มีสมาร์ตโฟน       ## ส่วนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐต้องลงทะเบียนก่อน เริ่มลงทะเบียนผ่านแอพฯ ทางรัฐ 1 ส.ค.##

วันที่ 30 ก.ค.67 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า วันที่ 1 ส.ค.นี้ รัฐบาล โดยกระทรวง ดีอี และกระทรวงการคลัง เปิดช่องทางให้ประชาชนผู้สนใจเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน ดิจิทัลวอลเล็ต ลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการ โดยกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียนผ่าน แอพพลิเคชั่น ทางรัฐ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอพฯ ทางรัฐ ได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มที่เกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการของสมาร์ตโฟน ดังนี้
    1. แอพพลิเคชั่น “App Store” สำหรับระบบปฏิบัติการไอโอเอส คลิกที่นี่ (iOS)
2. แอพพลิเคชั่น “Google Play” สำหรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ คลิกที่นี่(Android)
สำหรับผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟน หรือผู้ที่มีสมาร์ตโฟน แต่ต้องการความช่วยเหลือให้การลงทะเบียนฯ  รัฐบาลได้กำหนดสถานที่จุดให้บริการ (Walk – in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ดังนี้ระหว่างวันที่               ***(16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567) ในลำดับต่อไป  คนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ***

1.ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
2.ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง ทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
3.ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
4.ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ประชาชน ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถสอบถามข้อมูล และลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้ที่จุดบริการจำนวนรวม 5,199 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งรัฐบาล โดยกระทรวง ดีอี กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้บริการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตามระยะเวลาทำการ

สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการเตรียมการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ซึ่งเป็นข้อมูลโดยตรงจากรัฐบาล ที่เชื่อถือได้ ในเว็บไซต์ www.digitalwallet.go.th หรือ www.กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านศูนย์บริการข้อมูลโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet โทรสายด่วน. Digital Wallet 1111 พร้อมให้บริการและคำแนะนำปรึกษาแก่ประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

“รัฐบาล โดยกระทรวง ดีอี กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีความห่วงใยประชาชน ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” โดยได้จัดสถานที่ เป็นจุดให้บริการแบบ Walk-in เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการสอบถามข้อมูล และให้บริการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 5,199 จุดทั่วประเทศ เพิ่มเติมจากการลงทะเบียนผ่านแอพฯ ทางรัฐ เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ของประชาชน โดยคาดว่าจะมีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการประมาณ 45-50 ล้านคน” นายประเสริฐ กล่าว

ทั้งนี้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีจำนวน14.98 ล้านคนทั่วประเทศ จะต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ เช่นกัน และจากการเผยแพร่ข่าวบิดเบือนว่า ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต โดยจะได้รับเงินโอนเข้าบัตรในทันทีที่เริ่มโครงการนั้น ขอแจ้งว่าเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง โดยผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ   *****  จำเป็นต้องลงทะเบียนยืนยันตัวตนเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ก่อนที่จะได้รับสิทธิ์ *****

วันเสาร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรเนื่องในวันเฉลิมพระชนม์พรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

 






พิธีเจริญพระพุทธมนต์ ตักบาตรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567


พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล การจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

ณ หอประชุมอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ 

นายพิศาล  เค้ากล้า  นายอำเภอศีขรภูมิ เป็นประธานพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีทำบุญตักบาตร เพื่อถวายพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ บริเวณหอประชุมอำเภอศีขรภูมิ มี นพ.เมธี มวลไธสง ผอ.รพ.ศีขรภูมิ  นายบุญศักดิ์ บุญจูง  ผอ.ร.ร.ศีขรภูมิพิสัย น.ส.สูงสุด คุ้มภัย ท้องถิ่นอำเภอศีขรภูมิ และ หัวหน้าส่วนราชการในอำเภอศีขรภูมิ นายก อบต.ปลัด อบต.ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
















วันพุธที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ไทย - กัมพูชา ฝึกร่วมบรรเทาภัย ปฐมพยาบาล และอมบรมขยายผลโครงการเกษตร(ทหารพันุ์ดี)

 







##ไทย -กัมพูชา” ฝึกร่วมบรรเทาภัย,ปฐมพยาบาล และอบรมขยายผลโครงการเกษตร (ทหารพันธุ์ดี) สู่หมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน”ณ จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์


ที่ศูนย์ประสานงานพื้นที่ชายแดนช่องจอม พันเอก จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ประธานไทย พร้อมด้วย

พลตรี ลัวะ ลัญ ผู้บัญชาการยุทธบริเวณ พื้นที่ 3 ส่วนหน้า ประธานฝ่ายกัมพูชา ร่วมเป็นประธานเปิดการฝึกร่วมในครั้งนี้


ทั้งนี้ กองกำลังสุรนารี ร่วมกับ ภูมิภาคทหารที่ 3 ฝ่ายกัมพูชา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 26 โรงพยาบาลกาบเชิง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สถานีตำรวจภูธรอำเภอกาบเชิง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง องค์การบริหารส่วนตำบลด่าน และ หัวหน้าส่วนราชการ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดอุดรมีชัย และประชาชนทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมในพิธี


โดยในการฝึกร่วม ในครั้งนี้ ได้จัดให้ความรู้ ในเรื่องการบรรเทาสารณภัย, การปฐมพยาบาลช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน การส่งต่อผู้ป่วย ทางบก และทางอากาศ


พร้อมกันนี้ พันเอก จิรัฏฐ์ ช่วงฉ่ำ รองผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ได้มอบสิ่งของ เป็น เมล็ดพันธุ์พืช จาก โครงการทหารพันธุ์ดี หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 สู่หมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดนไทย -กัมพูชา โดยได้มอบให้แก่ตัวแทน ผู้นำชุมชน ชาวกัมพูชา พร้อมทั้งจัดวิทยากรอบรมให้ความรู้ การขยายเมล็ดพันธุ์พืชเพื่อต่อยอดแก่ชุมชนรอบข้าง การสาธิตการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และ การฝึกอบรม การป้องกันตนเองจากช้างป่า ตามนโยบายกองทัพภาคที่ 2 และกองกำลังสุรนารี 

เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำมาถึงความร่วมมือในด้านต่างๆ รวมถึงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมซึ่งกันและกัน ตลอดจนนำความรู้ที่ได้รับไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงาน การขยายผลไปสู่กำลังพล และประชาชนของทั้งสองประเทศ ##
















วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ตม.สุรินทร์ ตรวจเข้มจับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

 







ตม.จว.สุรินทร์  ตรวจเข้ม จับกุมต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง


วันนี้   23 ก.ค.  2567  เวลาประมาณ 06.00 น. เป็นต้นมา  ภายใต้การอำนวยการของ  พ.ต.อ.ธนวัฒน์  พูลสวัสดิ์  ผกก.ตม.จว.สุรินทร์  สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สุรินทร์ บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังสุรนารี  หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่  เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลและพาหนะที่สัญจรบริเวณแนวชายแดน เพื่อป้องกันการกระทำผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมืองฯ  และการกระทำผิดอื่น ๆ บริเวณจุดตรวจฐานกลาง  ถ.214  ต.ด่าน  อ.กาบเชิง  จว.สุรินทร์

ผลการปฏิบัติ จับกุม นายกะดา  ดี  อายุ 35 ปี  สัญชาติกัมพูชา  กับพวกรวม 8 คน  ไม่มีเอกสารเดินทางใดมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่  ให้การรับสารภาพว่า  พวกตนเป็นคนสัญชาติกัมพูชาได้ลักลอบเข้ามาประเทศไทยโดยใช้ช่องทางธรรมชาติ  เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวมายังที่ทำการ ตม.จว.สุรินทร์  เพื่อบันทึกจับกุมและผลักดันออกไปนอกราชอาณาจักรต่อไป  


วันอาทิตย์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

ส่องเลขเด็ดจากหางประทัดหมื่นนัดและเลขธูปในกระถาง พิธีเทวาภิเษกประดิษฐานและสมโภชพระพิฆเนศจัดพิธีแบบโบราณครบสูตร





##ส่องเลขเด็ดจากหางประทัดหมื่นนัดและเลขธูปในกระถาง พิธีเทวาภิเษกเพื่อประดิษฐานและสมโภชพระพิฆเนศ ตามแบบพิธีโบราณครบสูตร

ที่หน้าศูนย์จำหน่ายสินค้า “เต่าสะเร็น”  ริมทางถนนหมายเลข 24 ## โชคชัย-เดชอุดม อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พิธีเทวาภิเษกอันเชิญรูปปั้นพระพิฆเนศประดิษฐานบนแท่น ตามความเชื่อและศรัทธาของครอบครัว “ประสิทธิเม” เจ้าของอาณาจักรศูนย์รวมสินค้าและของฝากใหญ่ที่สุดของ จ.สุรินทร์ โดยพิธีเทวาภิเษกนี้ประกอบขึ้นโดยอาจารย์พราหมณ์ผู้เชี่ยวชาญในพิธีแบบโบราณครบสูตร มีรายละเอียดขั้นตอนหลากหลาย ซึ่งใช้เวลาประกอบพิธีกว่า 2 ชั่วโมง โดยได้เชิญ พันจ่าตรี ทวัช พันธุชิน นายอำเภอปราสาท มาเป็นประธานในพิธี และแขกผู้มีเกียรติ ญาติมิตรในพิธี

พระพิฆเนศที่อัญเชิญมาประดิษฐานนี้ เป็นแบบปูนปั้น ขนาดความสูง 2.5 เมตร หน้าตักประมาณ 90 เซนติเมตร ซึ่งเจ้าของร้าน ไปพบเห็นและถูกชะตา จึงขอพรไว้ว่าถ้าสำเร็จดั่งขอจะไปอัญเชิญมาไว้เพื่อบูชา เมื่อเป็นดั่งที่ขอไว้จึงได้กลับไปเช่ามาประดิษฐานหน้าศูนย์การค้าแห่งนี้ 

ซึ่งในพิธีก็มีการจุดประทัดกว่าหมื่นนัดเพื่อเอาฤกษ์มงคลตามความเชื่อ ก็ไม่เว้นที่ผู้เข้าร่วมพิธีจะรอส่องเลขหางประทัด โดยมีจำนวนด้วยกัน 2 หาง คือเลข 82 426 และ อีกหางคือ 64 095 ที่ต่างถูกนำไปกวาดซื้อในแผงลอตเตอรี่ที่แม้ค้านำมาจำหน่าย โดยเลขที่อยู่ในหางประทัดถูกนำไปหมุนตีเลขเด็ดจนจำหน่ายเกลี้ยงแผงงวดวันที่ 16 กรกฎาคม นอกจากนั้นยังมีเลขธูปในกระถางหน้าแท่นบูชาองค์พระพิฆเนศ ที่ปรากฏเลข 146  ยิ่งทำให้เลขที่ตรงกันระหว่างหางประทัดและธูปในกระถาม ถูกกว้านซื้อหมดภายในเวลารวดเร็ว

นายธนะกฤษฏิ์ ประสิทธิเม หรือ ต่อ ทายาทรุ่นที่ 3 ที่ดำเนินกิจการ “เต่าสะเร็น” บอกว่า ตนและครอบครัวศรัทธาและบูชาพระพิฆเนศมานานมากแล้ว และอยากมีองค์พระพิฆเนศ มาไว้บูชา ปกปักรักษาคุ้มครองและช่วยเสริมให้ธุรกิจแห่งนี้มีแต่ความสุขความเจริญ แต่ไปหลายที่ก็ยังไม่เจอองค์ที่ถูกใจ จนมาเจอองค์นี้ที่ถูกใจมาก คุณแม่จึงได้อธิฐานขอพรไว้ ว่าถ้างวดวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาขอให้ถูกรางวัล ถ้าถูกจะนำเงินที่ถูกรางวัลขอบูชาองค์ท่านมาบูชา ปรากฏว่าก็ถูกจริงๆดั่งที่อธิฐาน และตั้งแต่นำมาตั้งไว้แต่ยังไม่ทำพิธี ก็มีลูกค้านักท่องเที่ยวจากทั้งไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ตามความเชื่อของตนและครอบครัว